ทรัมป์ “ยึดวอชิงตัน ดีซี” ส่งเนชั่นแนลการ์ด คุมพื้นที่
แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : แม้สถิติอาชญากรรมในเมืองหลวงของอเมริกาจะลดลงต่อเนื่อง แต่ทรัมป์กลับประกาศสภาวะฉุกเฉิน ยึดอำนาจปกครองตัวเองของกรุงวอชิงตัน ดีซี ส่งทหาร 800 นายเข้าคุมสถานการณ์ ท่ามกลางการต่อต้านและเสียงวิจารณ์ “รู้ทัน” ว่าเป็นการ “สร้างข่าว” เพื่อกลบกระแสเรียกร้องให้เปิด “แฟ้มเอปสตีน” แค่นั้น
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2025 ว่า เขาจะประกาศภาวะฉุกเฉินด้านความปลอดภัยสาธารณะในกรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อให้รัฐบาลกลางเข้าควบคุมสำนักงานตำรวจของ และระดมกำลังเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชาติ จำนวน 800 นายเข้ามาแก้ไขปัญหา อาชญากรรม และปัญหาโฮมเลส
ทั้งนี้ กรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งมีสถานะเป็นเขตปกครองพิเศษของรัฐบาลกลาง จัดตั้งขึ้นโดยรัฐสภา ทำให้ทรัมป์สามารถใช้อำนาจตามมาตรา 740 ของพระราชบัญญัติการปกครองตนเองของเขตโคลัมเบีย โดยอ้าง ภาวะฉุกเฉินด้านอาชญากรรม เข้ายึดอำนาจได้เป็นเวลา 30 วัน โดยในช่วงนี้ ทรัมป์จะให้อัยการสูงสุด แพม บอนดี เข้ารับผิดชอบดูแลสำนักงานตำรวจเมืองวอชิงตัน ดีซี
ในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อประกาศ “ภาวะฉุกเฉินด้านอาชญากรรม” เพื่อให้รัฐบาลของเขาสามารถเข้าควบคุมกองกำลังตำรวจของเมืองได้ เขาได้ลงนามในคำสั่งให้พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดใช้งานกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติ
โดยการแถลงข่าวของทรัมป์มีขึ้นพร้อมๆ กับการชุมนุมประท้วงของประชาชน เจ้าหน้าที่ของ ดีซี และนักการเมืองเดโมแครต เป็นจำนวนมากที่บริเวณหน้าทำเนียบขาว โดยกลุ่มผู้ประท้วงยืนกรานไม่ยอมรับการยึดอำนาจปกครองของทรัมป์ ด้วยเหตุผลลอยๆ ว่าดีซี เป็นเมืองเขตที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม
“การกระทำแบบนี้ของรัฐบาล ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันไม่จำเป็น และผิดกฎหมาย" ไบรอัน ชวาลบ์ อัยการสูงสุดของ ดีซี กล่าว “ไม่มีเหตุอาชญากรรมฉุกเฉินใดๆ ในเขตโคลัมเบียทั้งนั้น”
ทั้งนี้ ข่าวบอกว่าสถิติคดีอาชญากรรมรุนแรงในพื้นที่วอชิงตัน ดีซี แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 30 ปีเมื่อปี 2024 และลดลงอีก 26% ในปีนี้
ข่าวบอกว่าท่าทีของทรัมป์ ที่เห็นชัดว่าต้องการเบี่ยงเบนความสนใจขอวประชาชน จากข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับ “แฟ้มแอปสตีน” ครั้งนี้ ยิ่งทำให้ความบาดหมางระหว่างเขากับเหล่าผู้รักษากฎหมายใน ดีซี รุนแรงยิ่งขึ้น หลังจากออกมาต่อต้านแนวคิดการขยายกำลังเจ้าหน้าที่ฯ เป็น 3,500 นาย และประกาศอภัยโทษหรือลดโทษให้กับผู้ต้องหากว่า 1,500 คนในคดีก่อจลาจลที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 รวมถึงกลุ่มผู้ต้องหาในคดีทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
เอพีอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับเรื่องนี้ว่า ภายใต้ประกาศภาวะฉุกเฉินในดีซีครั้งนี้ ทรัมป์ได้สั่งเคลื่อนกำลังทหารจากกองกำลังป้องกันชาติ เข้ามาประจำการในดีซี 800 นาย ทำหน้าที่ลาดตระเวณและปราบปรามอาชญากรรมโดยตรง 500 นาย ร่วมกับเอฟบีไอ 100 นาย, เจ้าหน้าที่จากสำนักงานแอลกอฮอล์ ยาสูบ อาวุธปืน และวัตถุระเบิด 40 นาย, เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปราบปรามยาเสพติด, สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร และสำนักงานยูเอส มาร์เชล ด้วย
ประเด็นโฮมเลส เป็นประเด็นที่ทรัมป์ใช้เป็นเหตุผลของการยึดอำนาจปกครองของดีซี ด้วย โดยเขาได้โพสต์โซเชียลมีเดีย ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม ว่า “คนไร้บ้านต้องย้ายออกไปทันที” แต่ไม่บอกว่าจะย้ายโฮมเลส ซึ่งมีจำนวน “หลายพันคน” ไปที่ไหน.
นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส