คนแอลเอ “จนเพราะบ้าน” มากขึ้น
แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : นอกจาก “ผู้เช่า” แล้ว บรรดา “เจ้าของบ้าน” ในแอลเอ ก็ต้องดิ้นรนกับปัญหาค่าครองชีพสูงเสียดฟ้าไม่ต่างกัน โดยเจ้าของบ้านในแอลเอ จำนวนมาก กำลังตกอยู่ในสภาพ “house poor” หรือ “จนเพราะบ้าน” อยู่ในเวลานี้
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2025 เว็บไซต์ คอนซูเมอร์ แอแฟร์ส (Consumer Affairs) องค์กรด้านข้อมูลผู้บริโภคของสหรัฐฯ เสนอรายงานฉบับล่าสุดระบุว่า เจ้าของบ้านในลอส แอนเจลิส อยู่ในสภาพ house poor มากเป็นอันดับสี่ของประเทศ
โดยคำว่า “house poor” เป็นคำศัพท์ทางการเงิน หมายถึงผู้ที่ต้องใช้รายได้ส่วนใหญ่ไปกับค่าที่อยู่อาศัย จนเหลือเงินเพียงเล็กน้อยสำหรับเก็บออมหรือใช้จ่ายด้านอื่นๆ
ผลการวิเคราะห์ของ Consumer Affairs พบว่า ครัวเรือนทั่วไปในลอส แอนเจลิส มีรายได้เฉลี่ยราว 10,855 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ต้องจ่ายมากกว่า 3,500 ดอลลาร์ สำหรับค่าที่อยู่อาศัย คิดเป็นประมาณ 32.5% ของรายได้ทั้งหมด
แม้ค่าที่อยู่อาศัยเฉลี่ยต่อเดือนของลอส แอนเจลิสจะ “สูงสุด” ในบรรดาเมืองใหญ่ทั่วประเทศ แต่ปริมาณของคนที่อยู่ในสภาพ “จนเพราะบ้าน” กลับอยู่ในอันดับสาม (รองจากนิวยอร์ก, นิวออร์ลีนส์ และไฮลีอาห์ รัฐฟลอริดา) ทั้งนี้เพราะเจ้าของบ้านในแอลเอ ส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าเมืองอื่น
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเงินเฟ้อและภาษีที่ดินของแอลเอ ที่สูงกว่าตัวเลขเฉลี่ยทั่วประเทศเกือบเท่าตัวเนื่องจากราคากลางของบ้าน (median home value) แตะระดับเกือบหนึ่งล้านดอลลาร์ กำลังเป็นปัจจัยที่ทำให้เจ้าของบ้านรับภาระมากขึ้นเรื่อยๆ
“เมื่อเทียบรายปี ค่าที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 3.8% ระหว่างปี 2023–2024 ขณะที่รายได้ของเจ้าของบ้านลดลง 0.1% ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือนในลอส แอนเจลิส เพิ่มจาก 31.2% เป็น 32.5% ในเวลาเพียงปีเดียว” Consumer Affairs ระบุ
รายชื่อ 10 เมืองที่มีเจ้าของบ้าน “house poor” มากที่สุดในสหรัฐฯ ได้แก่
1 ไฮลีอาห์ รัฐฟลอริดา – ใช้รายได้ 36.9% กับค่าที่อยู่อาศัย
2 นิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก – 33%
3 นิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา – 32.6%
4 ลอส แอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย – 32.5%
5 ไมอามี รัฐฟลอริดา – 32.3%
6 เพ็มโบรคไพน์ส (Pembroke Pines) รัฐฟลอริดา – 32%
7 เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัฐฟลอริดา – 30.6%
8 โฮโนลูลู รัฐฮาวาย – 30.5%
9 ยองเกอร์ส รัฐนิวยอร์ก – 30.2%
10 ชูลา วิสตา รัฐแคลิฟอร์เนีย – 29.5%
ในทางกลับกัน เมืองที่ประชาชนมีภาระค่าที่อยู่อาศัยต่ำที่สุดคือเมืองแชนด์เลอร์ รัฐอริโซน่า ต่อด้วยฮันต์สวิลล์ รัฐอลาบาม่า, คาร์รี นอร์ธ แคโรไลน่า, พิตต์สเบิร์ก เพนซิลเวเนีย และเรย์ลีย์ นอร์ธ แคโรไลน่า.
ผู้เชี่ยวชาญจาก Consumer Affairs ให้คำแนะนำเจ้าของบ้านในแอลเอ เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพ “จนเพราะบ้าน” เอาไว้หลายประการ เช่น สำรองงบประมาณสำหรับเหตุฉุกเฉินและรายจ่ายที่ไม่คาดคิด, คำนวณค่าใช้จ่ายที่มักถูกมองข้าม เช่น ภาษีทรัพย์สินและประกันบ้าน และยึดตาม “กฎ 28%” ที่ระบุว่า ไม่ควรใช้รายได้เกิน 28% ไปกับค่าที่อยู่อาศัยอย่างเคร่งครัด
สนใจอ่านรายงานฉบับเต็มของ Consumer Affairs ได้ที่ https://www.consumeraffairs.com/finance/cities-with-the-most-house-poor-homeowners.html.
นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส