นิวส์วีคส์ รายงานเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2025 ว่าผู้เข้าร่วมพิธีสาบานตัวเป็นพลเมืองอเมริกันทั่วประเทศ กำลัง “สับสน” และปั่นป่วน เพราะมีผู้รอเข้าพิธีบางคนถูก “ดึงตัวออกจากแถว” ทั้งที่ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบทุกอย่างแล้ว
แม้จะไม่มีตัวเลขที่แน่ชัด แต่ข่าวอ้างองค์กรสนับสนุนผู้อพยพอย่าง Project Citizenship ที่ให้ข้อมูลว่า ลูกความในรัฐแมสซาชูเซตส์และภูมิภาคนิวอิงแลนด์ อย่างน้อย 21 คน ได้รับแจ้งยกเลิกพิธีในช่วงเดือนธันวาคมนี้
ข่าวบอกว่าสาเหตุของการเลื่อนการสาบานตัว ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนอเมริกันนี้ เกิดจากมาตรการเข้มงวดด้านความปลอดภัยของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเกิดเหตุยิงเจ้าหน้าที่ทหารสองนายจากกองกำลังป้องกันชาติที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาเป็นผู้ลี้ภัยจากอัฟกานิสถาน ที่ได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ทรัมป์สั่งแบนประชาชนจาก 19 ประเทศ รวมถึงตรวจสอบผู้สมัครกรีนการ์ดและผู้ขอสัญชาติจากกลุ่มประเทศเหล่านี้อย่างเข้มข้นด้วย
ข่าวบอกว่าการนำคุณสมบัติของบุคคลที่ผ่านการอนุมัติให้ได้สัญชาติอเมริกันแล้วมาทบทวนซ้ำ จะทำให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (USCIS) ต้องทำงานซ้ำซ้อนและเกิดความล่าช้ากับกระบวนการพิจารณาสัญชาติโดยรวม นอกจากนี้ ผู้ที่อยู่ถูกเลื่อนโดยไร้กำหนด ซึ่งไม่มีช่องทางใดๆ ในการเรียกร้องสิทธิของตัวเอง จึงเชื่อว่าจะเกิดการฟ้องร้องในชั้นศาลตามมาอีกมากมาย
อย่างไรก็ดี ข่าวบอกว่ากฎหมายให้เวลา USCIS 120 วันหลังการสอบสัมภาษณ์ ว่าจะอนุมัติหรือปฏิเสธสัญชาติของผู้ยื่นคำร้อง (N-400) แต่ไม่ได้จำกัดเวลาว่าผู้สอบผ่านจะต้องเข้าพิธีสาบานตัวภายในกี่วัน จึงอาจเป็นช่องว่างทางกฎหมายที่ทำให้ผู้ยื่นคำร้องเสียเปรียบได้
ทั้งนี้ ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์ครั้งนี้ ได้แก่อัฟกานิสถาน, เมียนมา, ชาด, คองโก, อิเควทอเรียลกินี, เอริเทรีย, เฮติ, อิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซูดาน และเยเมน ส่วนประเทศที่ถูกแบนบางส่วน (partial travel ban) ได้แก่ บูรุนดี, คิวบา, ลาว, เซียร์ราลีโอน, โตโก, เติร์กเมนิสถาน และเวเนซุเอลา.