ข่าวคนไทยในอเมริกา
บทความ : เมื่อแคลิฟอร์เนียขอเก็บ “ภาษีอภิมหาเศรษฐี”

เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสาธารณสุขในแคลิฟอร์เนีย ได้ยื่นเสนอร่างกฎหมายชื่อ “2026 Billionaire Tax Act” ว่าด้วยการเก็บภาษีชนชั้นระดับ “มหาเศรษฐี” ซึ่งทั่วทั้งรัฐมีไม่เกิน 200 คน ต่อสำนักงานอัยการสูงสุดของรัฐ

โดย : ทีมข่าวสยามทาวน์ยูเอส

แรงกดดันที่ทำให้มีความพยายามเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ตัดงบประมาณกองทุนสุขภาพ (Medicaid) เพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ประมาณ 500 พันล้านดอลลาร์ (half a trillion) ในระยะสิบปี ซึ่งกระทบแรงกับทุกรัฐ รวมถึงรัฐใหญ่อย่างแคลิฟอร์เนียด้วย

หากสำนักงานอัยการฯ พิจารณาเห็นชอบกับร่างกฎหมายฉบับนี้ ก็จะอนุญาตให้ทำการ “ล่าลายเซ็น” ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในรัฐเป็นขั้นตอนต่อไป หากได้ลายเซ็นมากกว่า 874,641 คนขึ้นไป ร่างกฎหมายภาษีมหาเศรษฐี ก็จะถูกบรรจุในบัตรเลือกตั้งปลายปี 2026 เพื่อให้ชาวแคลิฟอร์โหวต “เยส” หรือ “โน” กันต่อไป

สาระของร่าง "กฎหมายภาษีมหาเศรษฐี ปี 2026” นี้ คือการเก็บ “ภาษีความรวย” จากบรรดามหาเศรษฐีของแคลิฟอร์เนีย ที่มีทรัพย์สินเกินกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์ขึ้นไป เพื่อนำรายได้มาใช้จ่ายด้านสาธารณสุขและการศึกษาภายในรัฐ

ภาษี 5 เปอร์เซ็นต์ที่เรียกเก็บครั้งเดียว (one-time excise tax) นี้ จะเรียกเก็บเฉพาะทรัพย์สินส่วนที่ “มากกว่า” พันล้านดอลลาร์ขึ้นไป

ข้อมูลจากฟอร์บส์ บอกว่าแคลิฟอร์เนีย มีมหาเศรษฐีระดับนี้ประมาณ 180-200 คน เชื่อว่า “ภาษีความรวย” จะทำให้แคลิฟอร์เนียมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 100,000 ล้านดอลลาร์  ซึ่งเงินก้อนนี้จะถูกแบ่งเป็นสองส่วน คือ 90 เปอร์เซ็นต์สำหรับงานด้านสาธารณสุข และอีก 10 เปอร์เซ็นต์ จะใช้จ่ายด้านการศึกษา

เอาแค่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เพียงคนเดียว ฟอร์บส ประเมินทรัพย์สินของเขาเอาไว้ที่ 209.4 พันล้านดอลลาร์ ยอดทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษี 5 เปอร์เซ็นต์ คือ 208.1 พันล้านดอลลาร์ 

ภาษีของเจ้าพ่อเฟสบุ๊กเพียงคนเดียวก็ปาเข้าไป 10.4 พันล้านดอลลาร์แล้ว

สาระของร่างกฎหมายบอกด้วยว่า ทรัพย์สินที่จะถูกประเมินเพื่อเสียภาษีนั้น รวมหมดทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ เช่น หุ้น การถือครองธุรกิจอื่นๆ พันธบัตร และของสะสม โดยมหาเศรษฐี สามารถหักหนี้สินออกได้ และสามารถขอยกเว้นทรัพย์สินบางอย่าง เช่น เงินบำนาญ บัญชีเกษียณ ดอกผลจากอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์สินที่อยู่นอกรัฐแคลิฟอร์เนีย และทรัพย์สินส่วนบุคคลมูลค่ารวมไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์ และห้ามไม่ให้บริจาคเงินจำนวนมากแบบปุบปับ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี

เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นถกเถียงกันในหมู่ผู้สนใจความเคลื่อนไหวของบ้านเมือง ฝ่ายที่สนับสนุนก็เยอะ ฝ่ายคัดค้านก็แยะ

ฝ่ายสนับสนุนบอกว่าหากคุณรวยกว่าพันล้านขึ้นไป ภาษีความรวยแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ถือเป็นยอดเงินที่ “จิ๊บจ๊อย” มาก ยกตัวอย่าง มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก (อีกสักหน) ที่มีคฤหาสน์ในพาโลอัลโต ถึง 11 หลัง ต่อให้ต้องขายบ้านไปสัก 1-2 หลังก็ไม่น่านจะกระทบกระเทือนเขานัก

ฝ่ายค้านก็แย้งว่าไม่ยุติธรรมสำหรับคนรวย เพราะแคลิฟอร์เนียมีประชากรเกือบ 40 ล้านคน ทำไมบังคับให้คนเพียงไม่ถึง 200 คน หรือประมาณ 0.0005 % ต้องแบกภาระ

และอย่าลืมว่า บรรดามหาเศรษฐีของแคลิฟอร์เนียยุคนี้นั้น ไม่ได้เป็นที่แซ่ซ้องสรรเสริญในแง่ความใจบุญสุนทานเท่าไหร่ หากถูกบังคับจ่ายภาษีคนรวย เพิ่มเติมจากภาษีรายได้ซึ่งแคลิฟอร์เนียเรียกเก็บในอัตราสูงสุดในประเทศอยู่แล้ว ก็อาจเป็นแรงกดดันให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า capital flight หรือการไหลออกของเงินทุนได้

อย่าลืมว่าอัตราภาษีของแต่ละรัฐ คือเหตุจูงใจให้เกิดการ “ไหลออก” และ “ไหลเข้า” ของกลุ่มประชากรที่มีรายได้สูงๆ มากที่สุดอยู่แล้ว ดังนั้น หากคนรวยๆ ที่เสียภาษีก้อนโตให้รัฐทุกปีอยู่แล้ว ตัดสินใจย้ายรัฐขึ้นมา ก็จะส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีในระยะยาวได้

ตัวอย่าง เจฟฟ์ เบซอส มหาเศรษฐีจาก amazon.com ก็ย้ายจากรัฐวอชิงตันไปฟลอริดาในปี 2023 ในช่วงที่วอชิงตันเสนอภาษีความรวย 1 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้มีสินทรัพย์เกิน 250 ล้านดอลลาร์มาแล้ว 

คำว่า “มหาเศรษฐีมีวันนี้ได้เพราะรัฐแคลิฟอร์เนีย” ที่ฝ่ายสนับสนุนยกมาอ้าง ก็ไม่น่าจะทำให้คนกลุ่มนี้รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณอะไร ยกตัวอย่าง  อีลอน มัสก์ ซึ่งบริษัทได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐหลายร้อยล้านดอลลาร์ในช่วงเริ่มต้น ก็สามารถย้ายฐานการผลิตเทสล่า ไปเท็กซัสได้แบบไร้เยื่อใย

หากมหาเศรษฐีพันล้านในแคลิฟอร์เนียทำแบบเดียวกับอีลอน มัสก์ สัก 4-5 คน ไม่เพียงรัฐจะชวดรายได้เพิ่ม 100,000 ล้านดอลลาร์ตามที่หวังเท่านั้น แต่อาจเก็บภาษีได้น้อยลงกว่าปัจจุบันด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ ยังมีการท้วงติงถึงปัญหาการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ซึ่งยากมากสำหรับบางประเภท เช่น อสังหาริมทรัพย์หรือผลงานศิลปะ อาจมีการฟ้องร้องคัดค้านราคาประเมินกันอีกเยอะแยะ หรือกินเวลายาวนาน ทำให้มาตรการไม่เห็นผลตามที่ตั้งใจ

หนึ่งในผู้ไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีคนรวยคือ เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เคยค้านข้อเสนอกฎหมาย หรือแนวคิดคล้ายๆ กันนี้หลายต่อหลายครั้ง เช่นร่างกฎหมาย เอบี2088, เอบี259, Proposition 30 ในปี 2022 เป็นต้น

ขณะนี้ ภาษีมหาเศรษฐี ปี 2026 ยังเป็นเพียงข้อเสนอและอยู่ระหว่างการ “ดีเบท” ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหางบประมาณด้านสาธารณสุขและการศึกษาของรัฐแคลิฟอร์เนียได้จริง หรือจะเป็นการ “ซ้ำเติม” ให้ปัญหาแย่ลงไปกว่าเดิม

คุณผู้อ่านสยามทาวน์ฯ มีความเห็นว่าไงกันมั่งครับ...




 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
638
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข