เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2025 Bankrate เว็บไซต์ข้อมูลการเงินของอเมริกา นำเสนอผลการสำรวจที่พบว่าในช่วงปลายปีนี้ ชาวอเมริกันประมาณ 2 ใน 5 คน มีบัตรของขวัญที่ยังไม่ได้ใช้อยู่ในครอบครอง และในกลุ่มนี้มียอดเงินคงเหลือในบัตรของขวัญเฉลี่ยประมาณ 244 ดอลลาร์ต่อคน เพิ่มขึ้นจากปี 2023 และ 2022 ที่ค่าเฉลี่ยยังไม่ถึง 200 ดอลลาร์

เท็ด รอสแมน นักวิเคราะห์อาวุโสของ Bankrate ระบุว่าหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่บัตรของขวัญเหล่านั้นไม่ถูกนำเอามาใช้ คือเจ้าของบัตรมักเก็บบัตรไว้ในกระเป๋าสตางค์ หรือโยนไว้ในลิ้นชักแล้วลืมไปในที่สุด

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่าการทำบัตรของขวัญหาย การไม่ชอบร้านค้าที่ออกบัตร หรือร้านค้าอยู่ไกลเกินไป ก็เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่นำบัตรของขวัญเหล่านั้นออกมาใช้

Bankrate บอกด้วยว่า ปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์ที่เปิดให้แลกบัตรของขวัญเป็นเงินสด หรือแลกเป็นบัตรของขวัญร้านอื่นที่ใช้ง่ายกว่า เช่น Cardcash เว็บไซต์ยอดนิยม ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้แลกบัตรของร้านที่ไม่ชอบเป็นบัตรของร้านอื่น หรือขายเป็นเงินสด แต่จะไม่ได้มูลค่าเต็มจำนวน เช่น บัตร Walmart มูลค่า 50 ดอลลาร์ อาจแลกเป็นเงินสดได้ประมาณ 40–45 ดอลลาร์ หรือเปลี่ยนเป็นบัตร Amazon มูลค่า 40 ดอลลาร์แทน

อีกเว็บไซต์หนึ่งคือ Giftcash ที่เปิดให้ขายบัตรของขวัญเช่นกัน โดยบัตรจากร้านค้ารายใหญ่อย่าง Target, Walmart หรือ Home Depot มักได้ราคาดีกว่าร้านขนาดเล็กหรือร้านอาหาร เช่น บัตร Target มูลค่า 50 ดอลลาร์ อาจขายได้ราว 42 ดอลลาร์ ขณะที่บัตร Cheesecake Factory มูลค่าเดียวกันอาจได้ประมาณ 37 ดอลลาร์

นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์ Raise ซึ่งทำงานคล้ายระบบประมูล ผู้ขายสามารถตั้งราคาบัตรเองได้ โดยเว็บไซต์จะช่วยแนะนำราคาที่แข่งขันได้จากตลาด ระยะเวลาการรับเงินส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 1 ถึง 5 วัน ผ่านการโอนเข้าบัญชีโดยตรง หรือ PayPal หรือเช็ค

อย่างไรก็ตาม  Bankrate ย้ำว่าผู้บริโภคควรอ่านเงื่อนไขให้ละเอียดก่อนทำธุรกรรมออนไลน์ แม้จะเป็นเพียงการแลกบัตรของขวัญก็ตาม เนื่องจากเว็บไซต์แลกเปลี่ยนเหล่านี้มักหักค่าธรรมเนียมจากราคาขาย และอาจมีเงื่อนไขปฏิเสธบัตรบางประเภท หรือยกเลิกการทำธุรกรรม หากพบปัญหาเกี่ยวกับยอดเงินหรือการละเมิดข้อกำหนดการใช้งาน

“แม้จะต้องยอมรับเงินน้อยกว่ามูลค่าที่ระบุบนบัตร แต่สำหรับผู้ที่ไม่คิดจะใช้บัตรของขวัญอยู่แล้ว การนำมาแลกเป็นเงินสดก็อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า” Bankrate ระบุ.