เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2017 เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ เดอะเนชั่น ตีพิมพ์จดหมายถึงบรรณาธิการ ซึ่งเขียนโดย เมลลิซ่า สวีนี่ โฆษกของสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทพฯ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบทความเรื่อง Thais in the US fear Trump’s harsh immigration policy (คนไทยในสหรัฐฯ กลัวนโยบายอิมมิเกรชั่นแบบรุนแรงของทรัมป์) ที่ตีพิม์บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ เดอะเนชั่น ฉบับวันท่ี 9 กุมภาพันธ์ 2017 โดยระบุว่าความเป็นจริงนั้นตรงข้ามกับเนื้อหาของบทความดังกล่าว เพราะสหรัฐฯ ยังคงเปิด และยินดีต้อนรับนักศึกษาและนักเดินทางชาวไทย เหมือนเช่นที่ผ่านมา
จดหมายของโฆษกสถานทูตอเมริกันบอกต่อไปว่า ในบรรดานักศึกษานานาชาติกว่าหนึ่งล้านคนที่เลือกที่จะเดินทางไปศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปีที่ผ่านมานั้น มีนักศึกษาไทยมากกว่า 7,000 ทำให้ไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ส่งนักศึกษาไปเรียนต่อในสหรัฐฯ
“โอกาสทางการศึกษาในสหรัฐฯ ไม่เพียงแต่ขับเน้นชีวิตและพัฒนาการทางวิชาการของบรรดาผู้ที่ไปเยือนเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังเป็นการเติมเต็มให้สถาบันการศึกษาในอเมริกาที่เป็นเจ้าบ้านด้วย ทราบกันดีว่า คอลเลจและยูนิเวอร์ซิตี้ ในสหรัฐฯ เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนทางวิชาการ พัฒนาการทางเทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ซึ่งเป็นผลมาจากความหลากหลายในสถาบันการศึกษาเหล่านั้น
“จากการเล็งเห็นถึงคุณค่าที่ที่นักเรียนไทยนำไปยังสถาบันการศึกษาในสหรัฐฯ สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเทพฯ ได้เสนอบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเรียนต่อโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ผ่านโครงการ EducationUSA เพื่อจับคู่นักเรียนกับมหาวิทยาลัยที่เหมาะสม ช่วยเหลือในการขอรับทุนการศึกษา และชี้นำขั้นตอนการขอวีซ่า” จดหมายของ เมลลิซ่า สวีนี่ ระบุ
“เราต้องการให้นักศึกษา นักวิจัย และนักวิชาการเหล่านี้ เดินทางกลับมาประเทศไทยหลังจากจบการศึกษา ไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับราชอาณาจักรไทยเท่านั้น แต่ความเข้าใจประเทศอเมริกาแบบลึกซึ้ง จะช่วยกระชับความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างพลเมืองสองชาติให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งความผูกพันระดับส่วนตัวแบบนี้ ถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดในการรักษาสัมพันธภาพอันยืนยาวระหว่างสองชาติของเรา”
จากนั้น จดหมายของโฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ระบุต่อไปว่า การที่บทความดังกล่าว อ้างอิงข้อมูลของสุทธิชัย หยุ่น ที่โพสต์บนเฟสบุ๊ก ที่อ้างว่ามีคนไทย 70 คนถูกจับกุมในไมอามี่ เพราะผลจากการ “เอาจริง” ของเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่น โดยบอกว่าเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่มีพื้นฐานความจริง
“อเมริกาก็เหมือนประเทศไทย คือมีกฎหมายคนเข้าเมืองเอาไว้เพื่อควบคุมปริมาณนักเดินทาง, ผู้อพยพ และแรงงานต่างชาติ ซึ่งกฎหมายเหล่านี้ได้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้คนหลายล้านคน ที่ได้รับวีซ่าสำหรับธุรกิจ การศึกษา และการท่องเที่ยว ในการเดินทางเข้าอเมริกาทุกปี” จดหมายของโฆษกสถานทูตอเมริการะบุ และว่า “ประชาชนชาวไทยนั้น จะยังคงเป็นที่ “ยินดีต้อนรับ” อย่างยิ่งของประเทศสหรัฐอเมริกาต่อไปเหมือนเช่นที่ผ่านมา” จดหมายของ เมลลิซ่า สวีนี่ สรุป.