ภายหลังการหารือ พล.ท. วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญว่า นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซียต่างยินดีที่หลังจากการพบหารือทวิภาคีที่ประเทศจีน เมื่อเดือนกันยายน 2560 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนของทั้งสองฝ่ายได้นำผลการหารือไปผลักดันอย่างจริงจัง โดยมีการประชุมคณะทำงานร่วมในหลายสาขา ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง การท่องเที่ยว พลังงาน การเกษตร และยังมีแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะรักษาพลวัตความสัมพันธ์ที่ดีเช่นนี้ไว้ตลอดไป
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับรัสเซียในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นกว่า 50% โดยประธานาธิบดีรัสเซียพร้อมผลักดันให้การค้าระหว่างกันเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี ค.ศ. 2020 ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจรัสเซีย นำคณะเอกชนรัสเซียกว่า 50 บริษัทเยือนไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพื่อจัดกิจกรรม Business Forum / Business Matching ร่วมกับฝ่ายไทย และเยี่ยมชมพื้นที่ EEC พร้อมกล่าวเชิญชวนให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC และอุตสาหกรรม S-Curve ด้วย นอกจากนี้รัสเซียยังสามารถใช้ไทยเป็นศูนย์กลางตลาดการค้าใน ACMECS อีกด้วย
ความร่วมมือไทย-รัสเซียในระดับภูมิภาค นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยในฐานะประธานอาเซียนปี 2019 จะเน้นการสานต่อความสำเร็จต่างๆ ของประธานอาเซียนในปีที่ผ่านๆ มา และการสร้างแรงผลักดันสำหรับอนาคต พร้อมผลักดันการเป็นหุ้นส่วนกับประชาคมระหว่างประเทศ รวมทั้งพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัสเซียและภาคีต่างๆ ของอาเซียน เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในการสร้างประชาคมอาเซียน พร้อมทั้งใช้โอกาสนี้เชิญประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย เดินทางเยือนประเทศไทยและเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ EAS ในปี 2562 ในช่วงที่ไทยเป็นประธานอาเซียน
ในตอนท้าย ประธานาธิบดีรัสเซียยืนยันความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับไทยอย่างใกล้ชิดในทุกมิติ และกล่าวอวยพรให้การเลือกตั้งของไทยในปีหน้าประสบผลสำเร็จ.