แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : แม้จะเหลือเวลาอีกเพียงสองสัปดาห์ แต่ “ทรัมป์” ยังประกาศ “สู้ตาย” เพื่อรักษาเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยกดดันรองประธานาธิบดี และพลพรรครีพับลิกันในคองเกรส ให้ “ไม่รับรอง” ผลการนับคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง ที่ “ไบเดน” ชนะขาด 306 ต่อ 232 เสียง
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2021 ว่า เขาจะ “สู้แค่ตาย (fight like hell) เพื่อรักษาตำแหน่งประธานาธิบดีเอาไว้ และขอร้องให้บรรดานักการเมืองสังกัดพรรครีพับลิกันทั้งสองสภา พลิกผลการเลือกตั้งที่เขาพ่ายแพ้หมดรูปให้กับ โจ ไบเดน ในการประชุมใหญ่ของสภาคองเกรส เพื่อรับรองผลการลงคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) อย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 6 มกราคมนี้
ทั้งนี้ โจ ไบเดน ได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งทั่วประเทศทั้งหมด 306 เสียง ซึ่งมากเกินพอสำหรับจำนวนที่ต้องการ 270 เสียงในการคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง ขณะที่ ทรัมป์ ซึ่งได้เพียง 232 เสียง ได้ประกาศตลอดมาว่าเขาถูกโกงการเลือกตั้ง และไม่ยอมรับคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งที่เลือก โจ ไบเดน
โดยทรัมป์ประกาศต่อหน้ากองเชียร์ของเขาระหว่างการหาเสียงแบบกลางแจ้งที่จอร์เจีย เมื่อค่ำวันจันทร์ โดยพูดถึงคณะผู้เลือกตั้งที่เลือกโจ ไบเดน ว่า พวกเขา “ไม่มีทางยึดทำเนียบขาวได้”
ทรัมป์เดินทางไปจอร์เจีย เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ เคลลี ลอฟเฟลอร์ และเดวิด เพอร์ดิว สองวุฒิสมาชิกของรัฐจอร์เจีย ที่กำลังถูกท้าชิงในการเลือกตั้งรอบรันออฟ กับสองผู้สมัครจากเดโมแครต คือ ราฟาเอล วอร์นอค และ โจน ออสซอฟฟ์ ซึ่งถือเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับพรรครีพับลิกัน เพราะหากพ่ายแพ้การเลือกตั้ง จะทำให้เสียงของรีพับลิกันในสภาสูงเหลือเพียงแค่ 50 เสียง เท่ากับเสียงของพรรคเดโมแครต และเมื่อบวกกับอีก 1 เสียงของว่าที่รองประธานาธิบดี คามาล่า แฮร์ริส ก็จะทำให้พรรคเดโมแครต ครองเสียงข้างมากในสภาสูง ไปทันที
ข่าวบอกว่าแม้จะเป็นการเลือกตั้งนัดสำคัญของพรรครีพับลิกัน แต่ทรัมป์ใช้เวลาทั้งหมดบนเวทีหาเสียง ไปกับการโวยวายและคร่ำครวญถึงความพ่ายแพ้ และยืนยันว่าเขาคือผู้ชนะการเลือกตั้ง และชนะด้วยคะแนนมหาศาลด้วย
ทั้งนี้ สภาคองเกรส จะจัดการประชุมร่วมวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ 6 มกราคม เพื่อนับผลคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีจากคณะผู้เลือกตั้ง โดยรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง จะเป็นประธานการประชุม และหากคองเกรส ได้รับรองผลการนับคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง เท่ากับเป็นการยืนยันว่า โจ ไบเดน คือประธานาธิบดีสหรัฐฯ และมีคุณสมบัติครบถ้วนพร้อมจะเข้าพิธีสาบานตัวเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
โดยระหว่างการหาเสียงที่จอร์เจีย ทรัมป์ ได้พูดกดดันรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ โดยประกาศต่อหน้ากองเชียร์ว่า ไมค์ เพนซ์ จะต่อสู้ทวงคืนความยุติธรรมให้เขา “ผมหวังว่ารองประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ของเรา จะช่วยเรา เขาเป็นคนดี แน่นอน ถ้าเขาไม่ทำแบบนั้นผมจะไม่ชอบเขามากเหมือนเดิม” ทรัมป์กล่าว ก่อนกลบเกลื่อนว่าเขาแค่พูดล้อเล่น
ขณะที่รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ซึ่งอยู่ที่จอร์เจียด้วยเช่นกัน ได้กล่าวถึงการประชุมเพื่อรับรองผลการนับคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งในวันพุธที่ 6 มกราคม แต่เพียงว่า "ผมขอให้สัญญากับคุณว่า วันพุธนี้ เราจะมีวันของเราในสภาคองเกรส”.