มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากเหตุการณ์กราดยิงในซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อ “คิง ซูปเปอร์ส” ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด้ เมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ 22 มีนาคม ถือเป็นเหตุการณ์ “สังหารหมู่” ครั้งที่สองในสหรัฐฯ ภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์

สำนักข่าวเอพี อ้างคำสัมภาษณ์ของ คอมแมนเดอร์ เคอร์รี่ ยามากูชิ แห่งสำนักงานตำรวจเมืองโบลเดอร์ ที่บอกว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย10 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นตำรวจของเมืองโบลเดอร์ และว่าขณะนี้ คนร้ายได้ถูกจับกุมตัวเอาไว้แล้ว

ข่าวบอกว่าเหตุร้ายครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ จากสำนักงานเมืองเดนเวอร์ มาร่วมทำคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ด้วย และว่าเหตเหตุการณ์ร้ายครั้งนี้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้รับทราบผ่านการสรุปย่อแล้วหลังจากเกิดเหตุไม่นาน และจะมีการสรุปเหตุการณ์ให้ประธานาธิบี ไบเดน รับทราบความคืบหน้าเป็นระยะ

ข่าวบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ล้อมคิง ซูปเปอร์ส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.30 น. โดยมีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงบอกให้คนร้ายยอมจำนน และเดินชูมือออกมา รวมถึงประกาศเตือนให้ประชาชนอยู่ห่างจากบริเวณดังกล่าวด้วย

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมสถานที่เกิดเหตุอยู่จนถึงเวลาประมาณ 18.40 น. เหตุการณ์จึงคลี่คลาย โดยภาพจากข่าวโทรทัศน์ เป็นภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนาย คุมตัวผู้ต้องหาหนึ่งคนในสภาพใส่กุญแจมือ ไม่ใส่เสื้อ และมีเลือดอาบที่ขา ออกมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต ขึ้นรถพยาบาลและขับออกไป

ดีน ชิลเลอร์ ซึ่งเพิ่งออกมาจากตลาดก่อนที่เหตุการณ์กราดยิงจะเกิดขึ้นเพียงครู่เดียว ได้กล่าวกับเอพีว่า เขาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เมื่อหันไปมองก็เห็นคนสามคนนอนคว่ำหน้า สองคนอยู่ที่ลานจอดรถ อีกคนอยู่ใกล้ประตูซูเปอร์มาร์เก็ต แต่เขาบอกไม่ได้ว่ามีเลือดไหลออกจากกลุ่มคนเหล่านั้นหรือไม่

ทั้งนี้ เหตการณ์กราดยิงในซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ มากนักนี้ เกิดขึ้นเพียงหกวัน หลังจากเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ในร้านนวด-สปา ของชาวเอเชียถึงสามแห่งในรัฐจอร์เจีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแปดคน โดยหกคนเป็นผู้หญิงเอเชีย

เอพีบอกด้วยว่า พื้นที่รอบๆ เมืองโบลเดอร์ ของรัฐโคโลราโด้ เคยเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งใหญ่ๆ มาแล้วหลายครั้ง รวมถึงครั้งที่น่าสลดใจที่สุด คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กๆ ของโรงเรียน โคลัมไบน์ ไฮสกูล ในปี 1999 ซึ่งมีเด็กนักเรียนและครูเสียชีวิตมากถึง 12 คน ก่อนที่มือปืนสองคน จะฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา โดยโรงเรียนในเมืองโคลัมไบน์แห่งนี้ ห่างจากเมืองโบลเดอร์ไปทางใต้ประมาณ 41 ไมล์

จากนั้น ในเดือนกรกฎาคม 2012 มือปืนชื่อ เจมส์ อีเก้น โฮล์มส์ ได้ล็อคประตูโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในเมือง อาโรร่า ซึ่งกำลังฉายภาพยนตร์เรื่อง The Dark Knight Rises รอบเที่ยงคืน ก่อนจะลงมือกราดยิงไปยังผู้ชมกว่า 400 คนที่ถูกกักอยู่ในโรงภาพยนตร์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน มีผู้บาดเจ็บอีก 70 คน โดยเมืองอาโรร่า ห่างจากเมืองโบลเดอร์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 35 ไมล์ โดยมือปืนได้รับสารภาพผิด และขณะนี้อยู่ระหว่างรับโทษจำคุกตลอดชีวิต 12 ครั้ง

และในเดือนพฤษภาคม 2019 นักเรียนคนหนึ่งได้ก่อเหตุยิงเพื่อนหนึ่งคนเสียชีวิต และบาดเจ็บอีก 8 คนที่โรงเรียน STEM School Highlands Ranch ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนใน ดักลาส เคาน์ตี้ ห่างจากเมืองโบเดอร์ไปทางใต้ประมาณ 68 ไมล์ โดยคดีนี้ผู้ต้องหาได้ให้การสารภาพ และกำลังอยู่ระหว่างรอการพิพากษาคดี ซึ่งจะม่ีขึ้นในเดือนพฤษภาคม ศกนี้.