เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2024 จิม เดสมอนด์ หนึ่งในคณะผู้บริหาร (supervisor) ของซานดิโก้ เคาน์ตี้ แถลงว่า ซานดิเอโก้ กำลังเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของการลักลอบเข้าเมือง โดยบอกว่าเพียงวันอังคาร (23 เมษายน) วันเดียว เจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดน (Border Patrol agents) สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองได้กว่า 2,000 คน เป็นชาวจีนถึง 206 คน

จิม เดสมอนด์ บอกด้วยว่าตัวเลขผู้ลอบเข้าเมืองที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ ทำให้ซานดิเอโก้  ซึ่งมีพรมแดนติดกับแม็กซิโกที่เมืองติฮัวน่า กลายเป็นเมืองชายแดนทางใต้ ที่มีปัญหามากที่สุดในบรรดาเมืองชายแดนทั้งเก้าแห่ง ถือเป็น “เรื่องที่ไม่เคยปรากฎ” นับจากยุค 1990s เป็นต้นมา

ซูเปอร์ไวเซอร์ของซานดิเอโก้ เคาน์ตี้ บอกด้วยว่านับจากเริ่มต้นปีงบประมาณ (1 ตุลาคม 2023) เป็นต้นมา ด่านพรมแดนซานดิโก้ ได้กักตัวผู้หลบหนี้เข้าเมืองแล้วถึง 214,855 คน โดยเป็นผู้อพยพจาก 75 ประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ จิม เดสมอนด์ ยังกล่าวถึงขบวนการรับจ้างพาเข้าประเทศ (human smuggler) ที่เอาผู้อพยพมาทิ้งไว้ที่ชายแดนซานดิเอโก้ ถึงกว่า 30,000 ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา

“ขบวนการขนคนเข้าเมือง มองแคลิฟอร์เนีย โดยเฉพาะด่านซานดิเอโก้ ว่าเป็นช่องทางที่มีอุปสรรคน้อยที่สุดสำหรับการลอบเข้าเมือง” จิม เดสมอนด์ กล่าว และว่า “เจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดน ได้กลายเป็น อูเบอร์ ให้กับผู้อพยพที่เข้ามาทางซานดิเอโก้ เคาน์ตี้ ขณะที่ เคาน์ตี้ ได้กลายเป็นเอเย่นต์ทัวร์ไปแล้ว”

ปัญหาที่ทำให้ซานดิเอโก้ กลายเป็นศูนย์กลางการลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายนั้น จิม เดสมอนด์ กล่าวโทษนโยบายของแคลิฟอร์เนีย ที่วางตัวเองเป็นรัฐหลบภัย (sanctuary state) ไม่อนุญาตให้ผู้รักษากฎหมายของรัฐ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอิมมิเกรชั่น ซึ่งเขามองว่าเป็นการลดทอนความสามารถในการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ.