สืบเนื่องจากการที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อม ด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะ เดินทางมาเยือนนครลอสแอนเจลิส ก่อนเดินทางไปร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเซียแปซิฟิก หรือ เอเปค ครั้งที่ 31 ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ระหว่างวันที่ 10-18 พฤศจิกายน 2024

โดยนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางถึงนครลอสแอนเจลิส ในเวลา 19.30 น. ของวันที่ 10 พฤศจิกายน 2024

ก่อนหน้านี้ นายต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ได้แถลงถึงภารกิจของนายกรัฐมนตรี ระหว่างอยู่ในลอส แอนเจลิส เป็นเวลาสามวัน ว่าจะเป็นประธานการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ประจำภูมิภาคอเมริกา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งมอบนโยบายในด้าน เศรษฐกิจและการต่างประเทศ ในช่วงเช้าของวันที่ 11 พฤศจิกายน

จากนั้นในเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบปะชุมชนคนไทยในนครลอสแอนเจลิส ณ วัดไทย ลอสแอนเจลิส ซึ่งทางสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ทำการประกาศเชิญชวนให้ชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส และใกล้เคียง เดินทางไปต้อนรับและพบปะนายกฯ รัฐมนตรี ล่วงหน้า

ทั้งนี้ เมื่อคณะของนายกฯ เดินทางมาถึงวัดไทยฯ ได้มีกลุ่มคนไทยที่เรียกตัวเองว่า “รวมพลคนรักชาติ” ประมาณ 10 คน รวมตัวบริเวณหน้าประตูวัดฯ มีการโห่ร้องและชูป้ายขับไล่นายกฯ ด้วย

หนึ่งในแกนนำของกลุ่มรวมพลคนรักชาติ เปิดเผยว่า ทางกลุ่มไม่ยอมรับนายกฯ รัฐมนตรีที่เข้ามาอย่างไม่โปร่งใส รวมถึงไม่ยอมรับนโยบายและพฤติกรรมต่างๆ ของนายกฯ คนนี้ด้วย

อย่างไรก็ดี การชุมชุมที่ถูกดูแลใกล้ชิดโดยเจ้าหน้าที่ซีเคร็ทเซอร์วิส และเจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองแอลเอ เป็นไปอย่างสงบ และไม่มีการใช้เครื่องขยายเสียงใดๆ

ส่วนบรรยากาศภายในวัดไทยฯ นั้น มีผู้ไปต้อนรับและพบปะนายกรัฐมนตรี เป็นจำนวนมาก โดยนายกฯ ได้กล่าวปราศรัยทักทายประชาชนบนโบสถ์ ซึ่งรองรับผู้ร่วมงานได้ประมาณ 150 คน ก่อนจะลงมาพบพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิดที่ตลาดอาหารวัดไทยฯ ด้วย

นายต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส กล่าวกับสยามทาวน์ยูเอส ว่าบรรยากาศการต้อนรับนายกรัฐมนตรีโดยภาพรวมในวันดังกล่าว ถือว่าเป็นไปอย่างเรียบร้อย แม้จะมีกลุ่มที่มีความเห็นต่างมาแสดงตัวบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก และการชุมนุมก็อยู่ในกรอบที่ยอมรับได้

โดยภารกิจต่อไปของนายกรัฐมนตรีในลอส แอนเจลิส คือพบปะหารือกับภาคเอกชนสหรัฐฯ เพื่อสร้างเครือข่าย (networking reception) กับสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ (Motion Picture Association :MPA) โดยจะมีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทภาพยนตร์ชั้นนำของสหรัฐฯ เข้าร่วม

“การประชุมกับผู้ผลิตภาพยนตร์ชั้นนำของอเมริกานั้น จะสามารถเชิญชวนเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 4,000 ล้านบาท และรัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุนและลดขั้นตอนในการเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย“

หลังเสร็จสิ้นภารกิจในลอส แอนเจลิส แล้ว นายกรัฐมนตรีและคณะ จะออกเดินทางไปยังกรุงลิมา สาธารณรัฐเปรูในวันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2024

โดยระหว่างวันที่ 14 - 16 พฤศจิกายน นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเซียแปซิฟิก “เอเปค ”ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การพบหารือกับ US-APEC Business Coalition ซึ่งเป็นการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้นำเอเปคและแขกพิเศษของประธาน พร้อมทั้งเข้าหารือระหว่างผู้นำเอเปคกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปคในช่วงอาหารกลางวัน (ABAC Dialogue with APEC Economic Leaders) ในรูปแบบ Retreat (APEC Economic Leaders’ Retreat) และหารือทวิภาคีกับผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมฯ อาทิ นางดินา เอร์ซิเลีย โบลัวร์เต เซการ์รา (H.E. Ms. Dina Ercilia Boluarte Zegarra) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเปรู และภาคเอกชนระดับโลก

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีจะเสร็จสิ้นภารกิจที่กรุงลิมาวันที่ 16 พฤศจิกายน 2024 และเดินทางกลับถึงประเทศไทยในเวลา 11.10 น. ของวันที่ 18 พฤศจิกายน 2024.