ซีเอ็นเอ็น เสนอข่าวเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2024 ว่า เบนจามิน ฮัฟฟ์แมน รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงภายใน หรือโฮมแลนด์ซีเคียวริตี้ ได้แถลงถึงการสิ้นสุดคำสั่งของกระทรวงฯ สองข้อ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง มีอำนาจมากขึ้นในการบังคับใช้กฎหมาย  

ข้อแรกคือการยกเลิกคำสั่งห้ามบังคับใช้กฎหมายอิมมิเกรชั่นในสถานที่เปราะบาง หรือ sensitive locations เช่นโบสถ์ โรงพยาบาล โรงเรียน ฯลฯ

“อาชญากรทั้งหลายจะไม่สามารถหลบอยู่ภายในโรงเรียนและโบสถ์ เพื่อหนีการจับกุมได้อีกต่อไป คณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ จะไม่มัดมือผู้รักษากฎหมายของเราอีกต่อไป แต่จะวางใจพวกเขาให้ใช้หลักสามัญสำนึกในการทำหน้าที่แทน” แถลงของว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงโฮมแลนด์ ระบุ

ข่าวบอกว่าการให้อำนาจเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นฯ จับกุมผู้ต้องหาได้ใน sensitive locations อย่างศาสนสถานและโรงเรียนนั้น คือความแตกต่างที่เห็นชัดระหว่างการทำงานของรัฐบาลทรัมป์ และรัฐบาลของโจ ไบเดน

ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของสำนักงานอิมมิเกรชั่นและศุลกากร หรือ ICE จะต้องปฏิบัติตามนโยบายที่ประกาศใช้ในปี 2011 ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ทำการจับกุมในสถานที่เปราะบาง ทั้งนี้เพื่อลดกระแสกดดันหรือสร้างความหวาดกลัวในชุมชนอิมมิแกรนท์ ทำให้เด็กไม่กล้าไปโรงเรียน ผู้ป่วยไม่กล้าไปรักษาตัวเองที่โรงพยาบาล หรือไม่กล้าไปโบสถ์ตามหลักศาสนาของตน ฯลฯ

คำสั่งข้อสองที่ได้รับการยกเลิกคือโปรแกรมทัณฑ์บน (parole programs) ที่จะอนุญาตให้ผู้อพยพบางกลุ่มได้รับสิทธิ์ชั่วคราวในการเข้ามาอาศัยและทำงานในประเทศ ในช่วงระหว่างรอพิจารณาปรับเปลี่ยนสถานภาพ หรือลี้ภัย ซึ่งในขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะมีการยกเลิกโปรแกรมใดบ้าง แต่ระบุว่าจะกลับมาใช้วิธีพิจารณาเรื่องของผู้อพยพ เป็นรายๆ ไป.