เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2025 สภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่าง ได้พิจารณาเห็นชอบร่างกฎหมายชื่อ เลเก้น ไรลีย์ (the Laken Riley Act) ถือเป็นการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับแรกของสภาผู้แทนฯ ในสมัยประชุมใหม่ ทำให้ร่างกฎหมาย ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา หรือสภาสูงมาแล้วก่อนหน้านั้น ถูกส่งไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามให้มีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า

ซีเอ็นเอ็น บอกว่าร่างกฎหมายที่ต้องการเนรเทศผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายที่ทำผิดในคดีอาชญากรรมบางประเภท ฉบับนี้ ผ่านสภาล่างด้วยเสียง 263 ต่อ 156 โดยมีส.ส.ของเดโมแครต โหวตเห็นชอบถึง 46 คน ซึ่งข่าวบอกว่าการผ่านสภาล่างแบบง่ายดายเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องนอกเหนือความคาดหมายพอสมควร เพราะรีพับลิกัน มีเสียงข้างมากในสภาล่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“การที่กฎหมายฉบับนี้ได้รับความสนับสนุนอย่างมากจากส.ส.เดโมแครต เป็นเหมือนการส่งสัญญาณชัดเจนถึงความเปลี่ยนแปลงภายในพรรค หลังจากที่ทรัมป์เอาชนะ (พรรคเดโมแครต) ในหลายรัฐที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งเหมือนเป็นการบอกกล่าวจากระดับประชาชน ว่าพรรค (เดโมแครต) ต้องใส่ใจกับผู้ออกเสียงที่มีความกังวลในประเด็นอิมมิเกรชั่นให้มากขึ้น” ข่าวระบุ

โดยรายละเอียดของร่างกฎหมาย เลเก้น ไรลีย์ ระบุว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ หรือโฮมแลนด์ ซีเคียวริตี้ จะต้องคุมตัวผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารแสดงตัว ซึ่งอยู่ในประเทศแบบผิดกฎหมายหรือไม่มีสถานภาพตามกฎหมาย หากพวกเขาถูกตั้งข้อหา, จับกุม, ตัดสินว่าผิด หรือยอมรับผิดในคดีอาชญากรรมบางประเภท รวมถึงลักขโมย (theft) และย่องเบา (burglary) ทำร้ายผู้รักษากฎหมาย และอาชญากรรมอื่นๆ ที่มีผลให้เกิดการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บทางร่างกายร้ายแรง

ส่วน เลเก้น ไรลีย์ ซึ่งเป็นชื่อของกฎหมายฉบับนี้นั้น ข่าวบอกว่าเป็นชื่อของนักศึกษาวัย 22 ปีในจอร์เจีย ที่ถูกฆาตกรรมขณะวิ่งออกกำลังกายเมื่อปี 2024 โดยผู้ต้องหาเป็นผู้อพยพจากเวเนซุเอล่าที่อยู่อย่างผิดกฎหมาย แม้ว่าที่สุดแล้ว ผู้ต้องหาจะได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่คดีนี้ก็ทำให้เกิดการ “ดีเบท” อย่างกว้างขวางถึงการปล่อยปละละเลยปัญหาผู้อพยพของรัฐบาลที่ผ่านมา

ที่ผ่านมานั้น ความพยายามของไอซ์ ในการจับกุมตัวผู้อพยพที่ทำผิดในคดีอาญาหลังพ้นคุก ถูกขัดขวางโดยส่วนปกครองของรัฐที่ผู้บริหารเป็นเดโมแครต เช่นรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยกฎหมายเปิดโอกาสให้อัยการรัฐสามารถฟ้องร้องขัดขวางการทำงานของไอซ์ ในศาลของรัฐบาลกลางได้

นอกจากการให้สิทธิตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ของไอซ์ แล้ว กฎหมายฉบับนี้ยังมาพร้อมกับเงินกองทุน ซึ่งทาง ไอซ์ บอกว่าต้องการถึง 3.2 พันล้านดอลลาร์ สำหรับดำเนินการในด้านต่างๆ รวมถึงการเพิ่มเตียงในสถานที่กักกันอีกกว่า 39,000 เตียง (จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 41,500 เตียง) โดยไอซ์ประเมินว่าจะต้องใช้เตียงในสถานกักกันรอเนรเทศ 110,000 เตียง.