ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เดินทางถึงสนามบินลอส แอนเจลิส โดยเครื่องแอร์ฟอร์ซวัน เมื่อเวลา 14.55 น.ของวันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2025 โดยมี เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย รอต้อนรับ

ประธานาธิบดีทรัมป์ เยือนแอลเอเพื่อสำรวจความเสียหายจากไฟป่าครั้งประวัติศาสตร์ ที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 7  มกราคม โดยเขาและผู้ว่าการรัฐฯ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ มารีนวัน เพื่อสำรวจความเสียหาย ก่อนจะมาพบปะหารือกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และนักการเมืองท้องถิ่นที่สถานีดับเพลิงลอส แอนเจลิส

ทรัมป์กล่าวว่าสภาพความเสียหายที่เขาเห็นนั้น “มันเหมือนคุณถูกระเบิดลง” และว่าทุกฝ่ายจะต้องเร่งรีบให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว

“เรากำลังหาทางทำงานให้สำเร็จ และวิธีที่จะทำงานให้สำเร็จก็คือการทำงานร่วมกัน” ทรัมป์กล่าว

ประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนค่อนข้างมาก ก็คือท่าทีของทรัมป์ และนิวซัม ซึ่งเป็น “คู่กัด” กันมายาวนาน โดยข่าวบอกว่าท่าทีของทั้งสองฝ่ายในการพบกันครั้งล่าสุดนี้ แตกต่างจากภาพเดิมๆ โดยสิ้นเชิง

โดยเกวิน นิวซัม ได้กล่าวขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ที่เดินทางมาดูความเสียหายด้วยตัวเอง และเรียกร้องความร่วมมือและสามัคคีกันระหว่างแคลิฟอร์เนียและรัฐบาลกลาง เพื่อ “เดินหน้าและบูรณะ” ชุมชนที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรือง แต่ถูกทำลายเหลือเพียงเศษอิฐปูนในขณะนี้

“เราต้องการความช่วยเหลือจากท่าน” นิวซัม กล่าวกับทรัมป์ “มันมีความหมายมากสำหรับเราทุกคน ไม่ใช่แค่เพียงคนในพาลิเสด และอัลทาดีน่า ซึ่งถูกทำลาย เราต้องการความสนับสนุนของท่าน”

เกวิน นิวซัม แสดงความมั่นใจด้วยว่าจะสามารถทำงานร่วมกับรัฐบาลกลางในการฟื้นฟูความเสียหายจากวิกฤตไฟป่าครั้งนี้ได้ เหมือนกับที่เคยร่วมกันฟันผ่าวิกฤตโควิด-19 มาแล้ว

“ท่านเคยทำเพื่อเรามาแล้วในช่วงโควิด” นิวซัม กล่าว  “ผมไม่ลืมเรื่องนั้น และผมมีความคาดหวังอย่างสูงว่าเราจะสามารถทำงานร่วมกันได้อีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด”

โดยที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวโจมตีผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียอย่างรุนแรงว่าไร้ประสิทธิภาพในการรับมือกับวิกฤตไฟป่า ทำงานผิดพลาด รวมถึงมีนโยบายที่ทรัมป์เรียกว่า “มัดมือ” เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของรัฐ จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และล่าสุด ก่อนจะเดินทางมาลอส แอนเจลิส เขาได้กล่าวที่นอร์ธ คาโรไลน่า ว่ารัฐบาลกลางจะไม่ให้ความช่วยเหลือทางด้านเงินทุนเพื่อฟื้นฟูความเสียหายกับลอส แอนเจลิส เว้นเสียแต่จะมีการผ่านกฎหมายบัตรประจำตัวผู้ออกเสียงเลือกตั้ง (voter ID laws) และเปลี่ยนแปลงระบบบริการจัดการน้ำของรัฐให้ดีขึ้นเสียก่อน.