สหรัฐฯ จะเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย หลังตัดความช่วยเหลือยูเครน
แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : สหรัฐฯ เตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรเพื่อฟื้นฟูสัมพันธ์กับรัสเซีย ตามความต้องการของทรัมป์ หลังระงับการสนับสนุนทางการทหารแก่ยูเครน
รอยเตอร์ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2025 โดยอ้างอิงแหล่งข่าวในทำเนียขาวว่า รัฐบาลกำลังร่างแผนซึ่งอาจนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ตามความต้องการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย และยุติสงครามในยูเครน
ข่าวระบุว่า ทำเนียบขาวสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการคลัง เร่งวิเคราะห์มาตรการคว่ำบาตรต่างๆ ที่สหรัฐฯ มีต่อรัสเซีย เพื่อหามาตรการที่สามารถผ่อนปรนได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ นำไปหารือกับผู้แทนจากรัสเซีย เพื่อหางพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
แหล่งข่าวบอกว่า ท่าทีดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของประธานาธิบดีทรัมป์ และเหล่าที่ปรึกษา ที่ต้องการสานสัมพันธ์กับรัสเซีย เพื่อแลกกับการบรรลุข้อตกลงบางอย่าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทรัมป์ต้องการสิ่งใดตอบแทน
ความพยายามสานสัมพันธ์กับรัสเซียของทำเนียบขาวดังกล่าวนี้ มีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ ได้ระงับความช่วยเหลือทางการทหารแก่ยูเครน โดยทรัมป์บอกว่าจะระงับความช่วยเหลือยูเครนเป็นการชั่วคราว จนกว่าเขาจะเห็นว่ายูเครนได้แสดงเจตนารมณ์อย่างจริงใจว่าต้องการสันติภาพจริงๆ
ข่าวบอกว่า คำสั่งระงับฯ ดังกล่าว ส่งผลให้อาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่ยังไม่ได้อยู่ในยูเครน จะถูกระงับ ซึ่งรวมถึงอาวุธที่อยู่ในโปแลนด์เพื่อรอขนส่งไปยังยูเครนด้วย
การระงับความช่วยเหลือทางการทหารดังกล่าว มีขึ้น หลังการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ประสบความล้มเหลว เพราะเปลี่ยนจากการหารือถึงวิธีการรับมือกับรัสเซีย กลายเป็นการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงต่อหน้าสื่อ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตึงเครียดที่ไม่ค่อยพบเห็นในแวดวงการทูต
การปะทะของสองผู้นำมีขึ้นหลังเซเลนสกี กดดันให้สหรัฐฯ ให้คำมั่นเรื่องความมั่นคงอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงแสดงท่าทีสงสัยเกี่ยวกับการทำข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ทำให้ทรัมป์และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ รู้สึกไม่พอใจ ถึงขั้นที่มีการเชิญ เซเลนสกี ให้ออกจากทำเนียบขาวด้วย.
นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส