บทความ : ชีวิต “ยันตระ” ในอเมริกา
เรื่องราวของอดีตพระยันตระ หรือนายวินัย ละอองสุวรรณ กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่เฟสบุ๊กของวัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย ได้โพสต์แจ้งญาติโยมเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2025 ว่า “พระอาจารย์ยันตระ อมโร” ประธานสงฆ์และผู้นำทางจิตวิณญาณวัดสุญญตาราม ได้ละสังขารแล้ว สิริรวมอายุ 73 ปี พรรษา 51
โดย : ทีมข่าวสยามทาวน์ยูเอส
ข้อความบนประกาศของทางวัด ใช้คำว่า “ขอน้อมถวายความอาลัย น้อมส่งหลวงพ่อสู่พระนิพพาน” แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาที่มีต่ออดีตพระยันตระ ของญาติโยมและลูกศิษย์ลูกหา ยังคงแน่นแฟ้น โยงยึดอดีตพระยันตระเป็น “ผู้นำทางจิตวิณญาณ” เรื่อยมาไม่เคยเสื่อมคลาย
ในระหว่างที่รอความกระจ่างเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งญาติที่เมืองไทยบอกเพียงว่า ท่านมีโรคประจำตัวบางอย่าง รวมถึงขั้นตอนการส่งร่างกลับบำเพ็ญกุศลที่เมืองไทย โดยในเบื้องต้น ข่าวอ้างคำกล่าวของญาติว่าจะตั้งบำเพ็ญกุศลที่สำนักป่าสุญญตาราม สถานปฏิบัติธรรมในอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ที่อดีตพระยันตระ เคยพำนัก นั้น
ขอรื้อฟื้นบทสัมภาษณ์อดีตพระยันตระ ที่ให้สัมภาษณ์สยามทาวน์ยูเอส ที่ร้านอาหารจิตรลดา ถนนซันเซ็ต เอาไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015 หรือเมื่อสิบปีที่แล้ว ขณะที่อดีตพระยันตระมีอายุ 64 ปี และยังคงมีสุขภาพแข็งแรง
ประเด็นที่สยามทาวน์สัมภาษณ์ครั้งนั้น เน้นไปที่เรื่อง “อดีตพระเณรคำ” ที่กำลังเป็นข่าวใหญ่ในขณะนั้น ว่ากำลังเดินตามรอย “ยันตระโมเดล” คือขอลี้ภัยในอเมริกา โดยอดีตพระยันตระคอยช่วยเหลือให้ที่พักพิงที่วัดสุญญตาราม ฯลฯ ซึ่งอดีตพระยันตระปฏิเสธทุกประเด็น อ้างว่ารู้จักอดีตพระเณรคำผ่านทางสื่อต่างๆ และเคยมาหาที่วัด เพียงครั้งเดียว (แต่ไม่พบกัน) เท่านั้น
ครั้งนั้น อดีตพระยันตระ ซึ่งปล่อยผม คิ้วและเครายาว หงอกขาว ห่มจีวรสีเขียวขี้ม้า สนทนากับสยามทาวน์อย่าคนอารมณ์ดี ยิ้มแย้ม ถึง “ชีวิตผู้ลี้ภัยในอเมริกา” ของเขายาวเหยียด เริ่มจากบอกว่า ตนพำนักอยู่ที่วัดสุญญตาราม เมืองเอสคอนดิโด ห่างจากลอส แอนเจลิส ลงไปทางใต้ ใช้เวลาขับรถประมาณ 1.30 ชั่วโมง เป็นวัดที่สงบเรียบร้อย มีญาติโยมเดินทางไปทำบุญมิได้ขาด มีพระประมาณ 4-5 รูป (ในขณะนั้น)
แม้อดีตพระยันตระ จะอาศัยแรงศรัทธาแก่กล้าของลูกศิษย์ลูกหาในอเมริกา ร่วมกันก่อตั้งวัดสุญญตาราม ขึ้นมาในเมืองเอสคอนดิโด้ หลังหลบหนีคดีจากประเทศไทย จนสำเร็จเป็นรูปร่างก็ตาม แต่ตนขอดำรงตำแหน่งเพียง “หัวหน้าคณะสงฆ์” เท่านั้น โดยได้มอบหมายตำแหน่งเจ้าอาวาสให้กับ พระมนตรี ธนวังโส ทำหน้าที่ดูแลทุกเรื่องราวในวัดแทนตน
ทั้งนี้เพราะตัวอดีตพระยันตระ ไม่ได้พักอยู่ที่วัด แต่แยกตัว หรือ “ปลีกวิเวก” ออกไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าเมืองเครสเซนต์ ซิตี้ เมืองริมทะเลทางตอนเหนือสุดของแคลิฟอร์เนีย (ติดพรมแดนรัฐโอเรก้อน) ห่างจากเมืองเอสคอนดิโด้ ประมาณ 700 ไมล์ โดยจะเดินทางกลับมาที่วัดเฉพาะเวลาที่วัดมีงานสำคัญเท่านั้น
ส่วนการนุ่งห่ม รวมถึงการไม่ปลงผม คิ้ว และหนวดเหมือนพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาทั่วไปนั้น อดีตพระยันตระ ซึ่งยังคงใช้สรรพนามแทนตัวว่า “อาตมา” ทุกคำ บอกว่าตนเองยังคงเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์ ไม่แตกต่างจากพระรูปอื่นๆ
“สีเป็นสิ่งสมมติ แต่วัตรปฏิบัติต่างๆ ก็เหมือนเดิม ทำวัตรภาวนา รักษาศีลเหมือนเดิม เพียงแต่อาตมาอยู่ในป่า ไม่ได้ปลงหนวดปลงผม เหมือนมีอิสระ มีเอกเทศ สบายดี ส่วนกิจวัตรประจำวันระหว่างอยู่ในป่านั้นจะสวดมนต์ภาวนา เจริญข้อวัตรปฏิบัติ ไหว้พระสวดมนต์ เดินจงกรม หากมีเวลาจะเขียนหนังสือ ทำกิจวัตรไปตามปกติธรรมดาเหมือนพระทั่วไป เพียงแต่ไม่ได้ปลงผม ปลงหนวด สบายๆ บางทีก็ห่มสีกรัก บางทีก็ห่มสีเขียว บางทีก็ห่มเหลือง เอาแบบสบายๆ”
แม้จะไม่ได้นุ่งเหลืองห่มเหลือง แต่ปัจจุบัน อดีตพระยันตระก็มีลูกศิษย์ลูกหา ทั้งชาวไทย ชาวเอเชียและชาวอเมริกัน รวมถึงยังเป็นที่เคารพศรัทธาของบรรดาพระภิกษุสงฆ์ทั้งไทยและนานาชาติ เป็นจำนวนมาก
“ใช้หลักศาสนาพุทธทั่วไปสอนให้คนทำแต่ความดี เสียสละ ละวาง ให้เห็นสิ่งทั้งปวงไม่มีอะไรที่เป็นของควรยึดมั่นถือมั่น เพราะไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนในโลกนี้ "อดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ กล่าว
ช่วงท้ายของการสนทนา อดีตพระยันตระ กล่าวว่าในเมื่อยังคงมีคนเคารพศรัทธาอยู่เยอะ ตนจึงได้ตั้งปณิธานในการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ว่า จะทำประโยชน์ให้พระพุทธศาสนามากที่สุดเท่าที่จะทำได้...
อดีตพระยันตระให้สัมภาษณ์สยามทาวน์ยูเอส ที่ร้านจิตรลดา เมื่อเดือนตุลาคม 2015 โดยมี พระมนตรี ธนวังโส (ซ้าย) เจ้าอาวาสวัดสุญญตาราม เมืองเอสคอนดิโอ ร่วมอยู่ด้วย
|
นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส