เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2025 วุฒิสมาชิกเบอร์นี โมเรโน (รีพับลิกัน, โอไฮโอ) แถลงว่าเขาจะเสนอร่างกฎหมายชื่อ Exclusive Citizenship Act of 2025 ว่าด้วยการยุติสถานะพลเมืองสองสัญชาติ (dual citizenship) สำหรับชาวอเมริกัน ซึ่งจะมีผลให้เกิดการแก้ไขกฎหมายปัจจุบันที่อนุญาตให้พลเมืองสหรัฐฯ มีหลายสัญชาติได้

นอกจากผู้ที่ขอเปลี่ยนสัญชาติเป็นอเมริกันจะต้องสละสัญชาติเดิมของตัวเองแล้ว ชาวอเมริกันที่ยื่นขอสัญชาติอื่น ก็จะสูญเสียสัญชาติอเมริกันไปโดยอัตโนมัติเช่นกัน

“การถือสัญชาติมากกว่าหนึ่ง อาจนำไปสู่ ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และอาจต้องแบ่งแยกความจงรักภักดีได้” สาระของร่างกฎหมายฯ ระบุ

ส.ว.โมเรโน ซึ่งเกิดในโคลัมเบีย และสละสัญชาติเดิมของตนไปแล้ว กล่าวว่า "หนึ่งในเกียรติยศสูงสุดในชีวิตของผมคือการได้เป็นพลเมืองอเมริกันตอนอายุ 18 ปี” และว่าตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้กล่าวคำปฏิญาณต่อสหรัฐฯ และต่อสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียวเท่านั้น 

“การเป็นพลเมืองอเมริกันคือเกียรติและสิทธิพิเศษ ถ้าคุณอยากเป็นอเมริกัน ต้องเต็มใจทั้งหมด หรือไม่เลย" เขาย้ำว่า "ถึงเวลาที่จะยุติสถานะพลเมืองสองสัญชาติอย่างถาวรแล้ว"

รายละเอียดของกฎหมายห้ามถือสองสัญชาติ บอกว่าบุคคลมีเวลา 1 ปีหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ ในการแจ้งสละสัญชาติเดิม ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ หรือขอสละสัญชาติอเมริกันผ่านกระทรวงความมั่นคงภายใน (DHS)  

“หากบุคคลไม่ดำเนินการใด ๆ ภายในกำหนดเวลา จะถือว่าสละสัญชาติสหรัฐโดยอัตโนมัติ” สาระของกฎหมายระบุ และว่าหลังจากแจ้งเรื่องกับกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงความมั่นคงภายในแล้ว สำนักงานอัยการสูงสุดจะบันทึกประวัติผู้ที่สละสัญชาติ และจัดให้เป็นชาวต่างชาติตามกฎหมายอิมมิเกรชั่น

ร่างกฎหมายยังระบุให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงความมั่นคงภายใน ร่วมกันสร้างระบบเพื่อติดตามและบังคับใช้กฎหมายใหม่ฉบับนี้ด้วย

ที่ผ่านมา รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์พยายามห้ามไม่ให้มีนักการเมืองที่ถือสองสัญชาติในรัฐสภา รวมถึงพยายามผลักดันให้ยุติการให้สัญชาติโดยกำเนิด (birthright citizenship) ซึ่งขณะนี้เรื่องกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

อย่างไรก็ดี การผลักดันกฎหมายห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันถือสองสัญชาติของนักการเมืองฝั่งรีพับลิกันครั้งนี้ จะต้องเผชิญความท้าทายรุนแรง เพราะอเมริการองรับการถือสองสัญชาติอย่างเป็นทางการมานาน โดยศาลสูงสุดเคยมีคำตัดสินตั้งแต่ยุค 1950s ว่า “dual nationality” เป็นสถานะที่กฎหมายยอมรับ  และการสูญเสียสัญชาติอเมริกันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเจ้าตัวสมัครใจ โดยรัฐบาลไม่สามารถริบสัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติหรือบังคับให้เลือกระหว่างสองสัญชาติได้.

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นิวส์วีค เสนอข่าวเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมว่าหากกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส ผลกระทบจะเกิดกับ เมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง และ บาร์รอน ทรัมป์ บุตรชายด้วย เพราะทั้งสองถือสัญชาติอเมริกันและสโลวีเนีย 

นอกจากนี้ ข่าวยังบอกว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากกฎหมายมีผลบังคับจริง คือการสละสัญชาติเดิมของตนเอง อาจกระทบกับบุคคลที่มีญาติ ทรัพย์สิน หรือการศึกษาในประเทศเดิม เพราะอาจนำมาซึ่งความยุ่งยากในหลายๆ ด้าน.