การออกกำลังกายนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยให้ความจำดีขึ้นด้วย ดังผลของมหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก สหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่า การเดินวันละประมาณ 40 นาที 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยป้องกันอาการขี้หลงขี้ลืม และช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ ซึ่ง
ปัจจุบันในประเทศอังกฤษมีผู้สูงอายุที่มีอาการสมองเสื่อมและความจำ
เสื่อมอยู่ประมาณ 820,000 คน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวใน 19
ปีข้างหน้า โดยงานวิจัยชิ้นนี้ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร PNAS (Proceedings of
the National Academy of Sciences)
คณะผู้วิจัยได้ทำการศึกษาอาสาสมัคร ซึ่งเป็นผู้สูงอายุจำนวน 120
คน โดยแบ่งอาสาสมัครออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มแรกให้ออกกำลังกายระดับกลางคือการเดินวันละ 40 นาที 3 วันต่อสัปดาห์
ในขณะที่อีกกลุ่มออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
และการสแกนสมองในช่วงเริ่ม ช่วงกลาง และช่วงท้ายของการวิจัย
ผลการสแกนสมองพบว่า ในกลุ่มผู้สูงอายุที่ออกกำลังกายระดับปานกลาง
สมองส่วนฮิปโปแคมปัส ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างความทรงจำระยะยาว
มีรอยหยักเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 2 และมีขนาดเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนกลุ่มที่มีการออกกำลังเบาๆ กลับพบว่า
รอยหยักบริเวณฮิปโปแคมปัสลดลงร้อยละ 1.4
ศาสตราจารย์เคิร์ค อีริคสัน ผู้วิจัยกล่าวว่า
“เราเคยคิดว่าในผู้สูงอายุสมองส่วนฮิปโปแคมปัสจะตีบลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ผลการวิจัยชิ้นนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า การออกกำลังกายในระดับกลางๆ
สามารถเพิ่มขนาดโครงสร้างของสมองส่วนนี้ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า
สมองมีการเปลี่ยนแปลงแม้จะอยู่ในช่วงสูงอายุแล้วก็ตาม
ดร.ไซมอน ริดสึ ทางสถาบันวิจัยอัลไซเมอร์ กล่าวว่า ยัง
ไม่สายหากจะเริ่มต้นออกกำลังกายเพื่อให้สมองทำงานได้ดี
โดยการออกกำลังกายระดับกลางๆ
จะสามารถพัฒนาความจำและช่วยปกป้องไม่ให้ความจำเลอะเลือนเมื่อแก่เฒ่า
รวมถึงยังมีผลการวิจัยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สนับสนุนว่า
การออกกำลังกายเป็นประจำ
และการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคสมองเสื่อม
และทำให้เกิดผลดีต่อร่างกายอีกมากมาย.
เห็นที่ต้องสลัดความขี้เกียจ ลุกขึ้นมาเดินออกกำลังกายบ้างแล้ว จะได้จำอะไรแม่นยำขึ้น
แหล่งที่มา: Health Today
นำเสนอข่าวโดย : Kittisuda .,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส