แม้จะไม่ได้พูดอะไรให้ชัดเจน แต่เพียงเท่านี้ก็ตีความได้แล้วว่า เขากำลังจะถอนตัวจากการเป็นคู่แข่งของนางคลินตันในการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ลงสนามเลือกตั้ง

วุฒิสมาชิกจากเวอร์มอนท์ ประกาศผ่านเว็บไซต์ของเขาว่าเคมเปญหาเสียงที่เขาและกลุ่มผู้สนับสนุนลุยกันมาเป็นเวลาหลายเดือนนั้น ไม่ใช่การทำเพื่อตัวของเขาเอง แต่เป็นการทำเพื่อประเทศอเมริกา ดังนั้น เขาจึงยินดีที่จะปล่อยวาง “ความแตกต่าง” ระหว่างเขากับนางคลินตัน (ซึ่งเคยถูกเขากล่าวหาว่าทำงานเพื่อผลประโยชน์ของ วอลสตรีท) เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า นั้นก็คือการป้องกันไม่ให้ โดนัลด์ ทรัมป์ อพยพครอบครัวเข้าไปอยู่ในทำเนียบขาว

“ประเทศเราผ่านการเหยียดผิว เหยียดเพศ และการกีดกันในรูปแบบต่างๆ มาหลายศตรรษแล้ว เราไม่ต้องการให้ผู้สมัครของพรรคหลัก ดันทุรังใช้ประเด็นนี้ในเคมเปญหาเสียงอีก” แซนเดอร์ ประกาศ และว่า “ภาระทางการเมืองที่สำคัญที่สุด ซึ่งรออยู่ในระยะห้าเดือนข้างหน้า คือการทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่า โดนัลด์ ทรัมป์ พ่ายแพ้ และพ่ายแพ้อย่างหมดรูปด้วย โดยผมตั้งใจว่าจะเริ่มกระบวนการนั้นในเร็วๆ นี้”

การเปลี่ยนคู่แข่ง จากนางคลินตัน มายังโดนัลด์ ทรัมป์ ของนายแซนเดอร์ส ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้เข้าพบกับประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า ที่ทำเนียบขาว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่ประธานาธิบดีโอบาม่าจะประกาศสนับสนุนนางคลินตัน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของเขาอย่างเป็นทางการ

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา แม้ว่านางคลินตันจะกลายเป็น “ว่าที่” ตัวแทนพรรคเดโมแครตอย่างไม่เป็นทางการไปแล้วก็ตาม แต่ความกังวลของนางคลินตัน รวมถึงบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคเดโมแครต ก็ยังมีอยู่ เพราะกลุ่มคนที่สนับสนุนเบอร์นี่ แซนเดอร์ส อาจแหกคอก หันไปเทเสียงให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนได้ หาก แซนเดอร์ ยังคงเล่นบท “เด็กดื้อ” ที่ต้องการเอาชนะนางคลินตันอยู่เช่นนี้  ดังนั้น ท่าทีล่าสุดของเขา จึงเท่ากับการปลดล็อค และนำความโล่งใจมาให้กับพลพรรคเดโมแครตทุกระดับ

อย่างไรก็ตาม แม้จะประกาศจับมือกับนางคลินตัน แต่แซนเดอร์ส ก็ยังคงวางข้อแม้ว่ายังจะต้องมีการพูดคุยกับนางคลินตันอีก ถึงการวางฐานสำหรับการเปลี่ยนโฉมพรรคเดโมแครต ให้เป็นพรรคของกลุ่มคนทำงานและคนหนุ่มสาว ไม่ใช่พรรคของคนรวยที่ทุ่มเงินบริจาคทางการเมือง... โดยบอกในทำนองที่ว่า เดโมแครต จะต้องทำงานเพื่อประชาชนทั้งห้าสิบรัฐ ไม่ใช่เลือกเฉพาะรัฐคนรวยเพียงแค่หยิบมือ

“ที่สำคัญที่สุดคือ พรรคเดโมแครตต้องการผู้นำ ที่เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประตูและต้อนรับกลุ่มแรงงาน และกลุ่มคนหนุ่มสาวให้มากขึ้น” แซนเดอร์ส กล่าว

แม้จะยังมีข้อแม้ แต่ท่าทีของ เบอร์นี่ แซนเดอร์ส เท่าที่กล่าวมา ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเขาและนางคลินตัน จะจับมือกันต่อสู้กับมหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ซึ่งกำลังปลุก “จิตสำนึกด้านมืด” ที่ฝังอยู่ในใจของคนอเมริกันอยู่ในเวลานี้ได้...