|
ข่าวเด่นเมืองไทย |
ข่าวเด่นเมืองไทย |
สลด สาวคุมประพฤติ ญาติดารา เอมี่ กลิ่นประทุม ซ้อนจยย.น้อง รถทับดับ
สองสาวพี่น้องขี่จยย.ไปเยี่ยมพ่อที่ อ.อุทัย อยุธยา ขากลับเฉี่ยวชนกับรถปิกอัพหนุ่มโรงงาน ล้มลงถูกรถที่วิ่งตามหลังทับคนพี่ เป็นพนักงานคุมประพฤติ เสียชีวิตคาที่ ส่วนน้องอาการสาหัส พบเป็นญาติดารา เอมี่ กลิ่นประทุม...
เวลา 21.00 น. วันที่ 18 พ.ย.60 พ.ต.ท.พเนตร มีสวัสดิ์ สว.(สอบสวน) สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงประสานอาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์สนับสนุนที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเส้นทางถนนโรจนะ อยุธยา-วังน้อยขาเข้าเมือง หน้าร้านอาหารที่นี่อยุธยา ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีน้ำเงินเขียว ทะเบียน ขนท 182 พระนครศรีอยุธยา ชนกับรถยนต์กระบะมาสด้า บีที50 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ทบ 2002 อ่างทอง ในจุดเกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 1 รายชื่อน.ส.พรทิพย์ กลิ่นประทุม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 ม.8 ต.หนองขนาก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นครูสอนที่ โรงเรียนปัณณวิชญ์ กู้ภัยให้การช่วยเหลือนำส่งรพ.พระนครศรีอยุธยา
ใกล้กันพบศพ น.ส.พัชรียา กลิ่นประทุม อายุ 36 ปี พนักงานคุมประพฤติปฏิบัติการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดชลบุรี ถูกรถยนต์ทับที่บริเวณขา ท่อนบนมีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ ส่วนคนขับรถยนต์ชื่อนายธีรภัทร์ ซื่อตรง อายุ 20 ปี เป็นพนักงานบริษัทฟูจิกูระ ในนิคมโรจนะ บอกว่าเพิ่งเลิกงานก็ขับรถยนต์มาตามถนนปกติ พอมาถึงตรงจุดเกิดเหตุ รถจักรยานยนต์ที่วิ่งมาอยู่เลนซ้ายได้เลี้ยวเข้ามาหารถของตนและเฉี่ยวชนไฟหน้าด้านซ้ายของรถจนรถล้ม แล้วมีรถยนต์เก๋งสีขาวที่ขับตามหลังตนมาเหยียบซ้ำอีกทีจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ก่อนที่รถเก๋งสีขาวจะขับหลบหนีไป
ต่อมา ได้มีนายประชุม กลิ่นประทุม อายุ 66 ปี เดินทางมาดูศพ บอกว่าทั้งสองเป็นลูกสาวตนเองเพิ่งมาเยี่ยมตนที่ทำงานเมื่อ 20 นาที ก่อนที่จะขี่จักรยานยนต์ออก และถูกชนดังกล่าว นายประชุมยังเปิดเผยด้วยว่าตนเองเป็นญาติกับดาราสาว เอมี่ กลิ่นประทุม อีกด้วย โดยศพของผู้เสียชีวิตจะตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดครุฑ ต.คลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยา
ทางด้านพนักงานสอบสวน เผยว่า ต้องให้ผู้บาดเจ็บมีอาการดีขึ้นก่อนจึงจะสอบปากคำได้ รวมถึงต้องหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ และเร่งติดตามรถที่ชนแล้วหลบหนีไปด้วย.
นำเสนอข่าวโดย : Kittisuda .,
แหล่งที่มาข่าวโดย : ไทยรัฐ