เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2021 เว็บไซต์ของนิวยอร์กเดลี่นิวส์ นำเสนอเรื่องราวของสันติพร ฟักสังข์ หนุ่มไทยในนิวยอร์ก วัย 31 ปีที่ ผู้ตกเป็นเหยื่อในคดีทำร้ายร่างกายอันมีสาเหตุมาจากพฤติกรรม “เหยียดคนเอเชีย” ในนิวยอร์ก ที่เพิ่มทวีขึ้นเกือบ 400 เปอร์เซ็นต์ในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19
บทความของนิวยอร์กเดลี่นิวส์ บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้หนุ่มไทยคนนี้มีอาการ “ใจสั่น” ทุกครั้งที่สวมรองเท้าเตรียมออกจากบ้าน
สันติพร ซึ่งถูกคนร้ายชกที่ใบหน้าจนจมูกหักขณะเดินออกมาจากสถานีรถไฟใต้ดินที่แมนฮัคตัน ยังคงรู้สึกหวาดหวั่นทุกครั้งที่ออกมาเดินอยู่ในท้องถนนของนิวยอร์ก ในยุคที่กระแส “แอนตี้-เอเชี่ยน” กำลังรุนแรง อีกทั้งคนร้ายที่ลอบกัดเขาก็ยังคงลอยนวลอยู่ในเวลานี้
สันติพร ซึ่งจากประเทศไทยมาอยู่ที่นิวยอร์กเมื่อสี่ปีที่แล้ว บอกกับเดลี่นิวส์ว่า ชีวิตของเขาก่อนหน้านี้ นั้นดีมาก แต่การทำร้ายร่างกายที่เกิดขึ้น ทำให้เขากลัวที่จะไปไหนคนเดียว
“ใจผมสั่น ตั้งแต่ผมหยิบรองเท้ามาใส่เลย ใจสั่น กลัวว่ามันจะเกิดขึ้นอีก”
เหตุการณ์ทำร้ายโดยการกระโดดชก แบบที่เรียกว่า sucker punched โดยชายผิวสีเข้มที่สถานีรถไฟใต้ดินถนนบรอดเวย์กับถนนเวสท์ 28 ในเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่ 19 เมษายนนั้น ส่งผลให้สันติพรได้รับบาดเจ็บถึงขั้นจมูกหัก ต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาโดยด่วน
“ผมกำลังไปหาเพื่อน” หนุ่มไทยให้สัมภาษณ์จากอพาร์ทเมนท์ของเขาในย่านควีนส์ “ผมกับคนร้ายไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ กลายเป็นว่าเราเดินตามหลังใครไม่ได้แล้วเหรอ ถ้ามีใครเดินอยู่ข้างหลังคุณ คุณสามารถหันกลับไปชกเขาได้เลยงั้นเหรอ”
สันติพรบอกด้วยว่า จนถึงวันนี้ เขายังไม่บอกพ่อแม่ที่ประเทศไทยให้รับรู้เรื่องที่เขาถูกทำร้ายโดยไม่มีการยั่วยุใดๆ
“ผมร้องไห้ทุกคืนในช่วงเดือนแรก เพราะผมบอกที่บ้านไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าจะบอกยังไง”
หนุ่มไทยบอกด้วยว่า คนร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่งเปิดเผยภาพสเก็ตช์ต่อสาธารณชนเมื่อวันพุธที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นภาพชายวัยประมาณ 30 เศษๆ ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำและรองเท้าผ้าใบสีขาว ได้ตะคอกใส่หลังจากชกเขาที่ใบหน้าอย่างแรง ด้วยประโยคคลาสสิกว่า “โก แบ๊ก ทู ยัวร์ คันทรีย์” และว่า “อย่ามาเดินตามฉัน ไปให้พ้น”
ข่าวให้ข้อมูลด้วยว่า คดีที่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ของสันติพร อยู่ในความดูแลของกองกำลังป้องกันคดีอาชญากรรมอันเนื่องมาจากการเหยียดเชื้อชาติ (Hate Crimes Task Force) ของสำนักงานตำรวจนิวยอร์ก (NYPD)
สันติพร บอกด้วยว่าเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นครั้งแรกในชีวิตนั้น ส่งผลให้เกิดบาดแผลทางใจกับเขาด้วย
“ผมมีปัญหาในการสื่อสารกับหมอและพยาบาล แค่เดินก็เจ็บมากแล้ว” เขากล่าวถึงความหลัง และว่าระหว่างการรักษา ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของเขาเป็นบวกอีกด้วย
“ผมไม่ได้ออกจากห้องเลย ผมกินอาหารได้แค่คำเล็กๆ หายใจทางจมูกก็ไม่ได้”
หนุ่มไทย ซึ่งที่ผ่านมาเคยตะลอนไปทั่วนิวยอร์กเพื่อทำคลิปวิดีโอสำหรับช่องยูทูปของเขา (ช่อง Marioh NewYork) กลายเป็นคนที่หวาดกลัว และเก็บตัวอยู่แต่ในอพาร์ทเมนท์ของตัวเอง
แต่ที่สุดแล้ว... เหยื่อจากประเทศไทยก็ได้ค้นพบความกล้าหาญของตัวเอง ในการก้าวออกไปสู่โลกภายนอก และกลับสู่กิจวัตรปกติของตัวเองอีกครั้ง แม้ว่าคนร้ายที่ลงมือทำร้ายเขา จะยังไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือก็ตาม
“หลังจากเวลาผ่านไปสองเดือนครึ่ง ผมเดินไปที่ปาร์คใกล้ๆ นี่ได้แล้ว” สันติพรกล่าว และให้สาเหตุของความเปลี่ยนแปลงในทางทีดีขึ้นนี้ว่า เป็นเพราะ “ผมไม่ต้องการให้คนเลวคนหนึ่ง มาเปลี่ยนชีวิตของผม”
……