แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : สั่งจำคุก “ลูกชาย” เจ้าของร้านอาหารไทยบาร์บีคิวในแอลเอ-ซานฟรานซิสโก จากความผิดฐานเลี่ยงภาษีการค้าและภาษีค่าแรงต่อเนื่องกว่าห้าปี รวมมูลค่ากว่าสิบล้านดอลลาร์ ส่วน “ผู้เป็นพ่อ” อยู่ระหว่างหลบหนีคดีอยู่เมืองไทย
สำนักงานอัยการของรัฐแคลิฟอร์เนีย แจ้งข่าวมายังสยามทาวน์ยูเอสว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2021 ผู้พิพากษาศาลซูพีเรียของลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ ได้พิพากษาโทษจำคุก นายจาตุรงค์ งามอารีย์ จูเนียร์ หนึ่งในเจ้าของร้านอาหาร ไทยออริจินัล บาร์บีคิว หลายสาขา ทั้งในลอส แอนเจลิส และซานฟรานซิสโก เป็นเวลา 2 ปี จากข้อหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงภาษี
ถ้อยแถลงของสำนักงานอัยการฯ บอกว่า ในช่วงระหว่างปี 2011 จนถึง 2016 นายจาตุรงค์ งามอารีย์ จูเนียร์ หลีกเลี่ยงการเสียภาษีการค้า (sales tax ซึ่งเป็นภาษีที่เก็บจากลูกค้า) กว่า 7.5 ล้านดอลลาร์กับสำนักงานภาษีและค่าธรรมเนียมของรัฐแคลิฟอร์เนีย (the California Department of Tax and Fee Administration หรือ CDTFA) และเลี่ยงเสียภาษีค่าแรง (payroll tax ภาษีที่หักจากเงินเดือนของลูกจ้าง) อีกกว่า 2.9 ล้านดอลลาร์กับสำนักงานส่งเสริมการจ้างงานของรัฐ (the Employment Development Department หรือ EDD)
อย่างไรก็ตาม โทษจำคุก 2 ปีของนายจาตุรงค์ งามอารีย์ จูเนียร์ ได้ถูกระงับเพราะผู้ต้องหาให้ความร่วมมืออย่างดี โดยเปลี่ยนเป็นการทำทัณฑ์บน (probation) เป็นเวลา 2 ปี และทำงานสาธารณประโยชน์ 180 วัน
โดยก่อนหน้านี้ นายจาตุรงค์ งามอารีย์ จูเนียร์ ได้ยินยอมจ่ายเงินชดเชยจำนวน 1,540,962.02 ดอลลาร์ให้กับ CDTFA, EDD และบริษัทประกันภัยหลายแห่ง ซึ่งเงินชดเชยดังกล่าวนี้ ถ้อยแถลงของสำนักงานอัยการฯ บอกว่าเป็นยอดรวมภาษีค้างจ่ายทั้งหมด ทั้งภาษีการค้า (sales tex) ภาษีค่าแรง (payroll tax), เงินพรีเมียมค่าประกันคนงานค้างจ่าย (unpaid workers’ compensation insurance premiums) ค่าใช้จ่ายในการสอบสวน และดอกเบี้ยของเงินภาษีค้างจ่ายทั้งหมดด้วย
โดยผู้ต้องหาในคดีนี้นั้น สำนักงานอัยการฯ ระบุว่ามีทั้งหมด 3 คน คือนายจาตุรงค์ งามอารีย์ จูเนียร์, นายจาตุรงค์ งามอารีย์ (ซีเนียร์) ซึ่งเป็นพ่อของเขา และนางสันจุธา หาญธนชัยกุล (Sanjutha Hantanachaikul) เจ้าของร้านไทยออริจินัล บาร์บีคิว อีกสาขา
โดยนายจารุรงค์ ผู้เป็นลูกชายนั้น ถูกสำนักงานอัยการตั้งข้อหาอาญารวม 57 กระทง รวมถึงข้อหาโจรกรรมร้ายแรง (grand theft) ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019 โดยเขาได้รับสารภาพผิดในข้อหาหลบเลี่ยงภาษี, มีซอฟท์แวร์ลดยอดขาย (sales suppression software) ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายในครอบครอง และเลี่ยงภาษีค่าแรง (payroll taxes) รวมถึงข้อหาเสริมสำหรับผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงการเงินกับรัฐ ที่เรียกว่า white collar crime enhancement ซึ่งเป็นกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียที่จะให้อำนาจผู้พิพากษาเพิ่มโทษจำคุกผู้ทำผิดระหว่าง 2-5 ปี
ส่วนนายจาตุรงค์ งามอารีย์ ผู้เป็นพ่อ ซึ่งต้องข้อหาในลักษณะเดียวกับลูกชายรวม 51 กระทงนั้น สำนักงานอัยการฯ ระบุว่าขณะนี้ ไม่ได้อยู่ในประเทศ และเชื่อว่าได้เดินทางกลับประเทศไทยไปตั้งแต่ปี 2018
โดยนายจาตุรงค์ งามอารีย์ ซีเนียร์ หรือแป๊ะ ถือเป็นคนไทยรุ่นบุกเบิกในลอส แอนเจลิส ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจร้านอาหารอย่างสูง โดยร้านอาหารไทยบาร์บีคิว ของเขา ซึ่งสาขาแรกอยู่บนถนนวิลเชอร์ ของลอส แอนเจลิส นั้น ช่วงหนึ่งเคยกระจายเฟรนไชร์ ออกไปทั่วแคลิฟอร์เนียประมาณ 15 สาขา
ก่อนหน้าที่จะเดินทางกลับประเทศไทยนั้น นายจาตุรงค์ งามอารีย์ ได้เป็นประธานจัดงานทอดผ้าพระกฐินพระราชทาน และงานประเพณีลอยกระทงของวัดไทย ลอส แอนเจลิส ประจำปี 2018 (2561) ด้วย
ส่วนผู้ต้องหารายที่ 3 คือ นางสันจุธา หาญธนชัยกุล ซึ่งถูกตั้งข้อหาอาญา 9 กระทงนั้น สำนักงานอัยการของรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่าให้การรับสารภาพผิดตามข้อหาตั้งแต่ปีที่แล้ว และได้รับการพิพากษาให้ต้องทัณฑ์บนเป็นเวลา 3 ปี.
นายจาตุรงค์ งามอารีย์ หรือแป๊ะ (สองจากขวา) และลูกชาย จาตุรงค์ งามอารีย์ จูเนียร์ (ขวาสุด) ขณะเป็นประธานจัดงานทอดผ้าพระกฐินพระราชทาน และงานประเพณีลอยกระทงของวัดไทย ลอส แอนเจลิส ประจำปี 2018 (ภาพจากเฟสบุ๊กสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส)