เว็บไซต์ คอร์ทเฮาส์นิวส์ รายงานเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2021 ว่า บริษัทไทยนิปปอนรับเบอร์ อินดัสตรี ผู้ผลิตถุงยางอนามัยในประเทศไทย ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก เพลย์บอย เอ็นเตอร์ไพรซ์ เป็นเงิน 100 ล้านดอลลาร์ ฐานยกเลิกสัญญาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยคำฟ้องของไทยนิปปอนฯ ที่ยื่นต่อศาลของรัฐบาลกลางเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2021 ระบุว่าเพลย์บอย เอ็นเตอร์ไพรซ์ ได้พยายามสร้างสถานการณ์ต่างๆ เพื่อลดยอดขายในสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งของแผนในการครองสิทธิในการจำหน่ายสินค้าทั่วโลก (global license) และเมื่อไม่เป็นผล เพลย์บอยฯ ก็กล่าวหาไทยนิปปอนฯ แบบไม่มีหลักฐานใดๆ ว่าทำผิดสัญญาที่ตกลงกันเอาไว้ และใช้เป็นข้ออ้างในการยกเลิกสัญญาผลิตถุงยางอนามัยแบรนด์เพลย์บอย
ผลที่ได้รับคือ ไทยนิปปอนฯ ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าถุงยางอนามัยแบรนด์เพลย์บอยที่ผลิตแล้ว กว่า 13 ล้านชิ้นได้
คำฟ้องระบุต่อไปว่า ที่ผ่านมา ไทยนิปปอนฯ พยายามเจรจากับเพลย์บอยฯ ขอให้มีการตรวจสอบ (audit) ข้อมูลใหม่ รวมถึงยินดีจ่ายค่าตรวจสอบใหม่ด้วย โดยได้แสดงเจตนารมณ์ดังกล่าวหลายครั้งเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาระหว่างสองฝ่าย แต่เพลย์บอย ล้มเหลวท่ีจะมีส่วนร่วมในการหาทางออก อีกทั้งยัง “บูลลี่” ไทยนิปปอนฯ ให้ทำลายสัญญาผลิตสินค้า ซึ่งทำให้เห็นชัดว่าเพลย์บอยต้องการลิขสิทธิ์คืน เพื่อทำการจัดจำหน่ายสินค้าเอง
ไทยนิปปอนฯ ระบุด้วยว่า เพลย์บอยฯ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในลอส แอนเจลิส ต้องการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดสินค้าแบรนด์เพลย์บอย ซึ่งมีมูลค่าปีละประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ โดยการปรับเปลี่ยนจากการให้สิทธิบัตร (licensing) มาเป็นการจำหน่ายสินค้าเพลย์บอย เอง และนั่นคือสาเหตุหลักที่ทำให้ไทยนิปปอนฯ ถูกยกเลิกสิทธิบัตร
นอกจากนี้ คำฟ้องของไทยนิปปอนฯ ยังอ้างข้อมูลการเล่นไม่ซื่อของเพลย์บอย จากอดีตผู้จัดการฝ่ายขาย ที่แยกทางกับเพลย์บอย เมื่อเดือนธันวาคม 2020 เช่นอีเมล์จากที่เพลย์บอยฯ เสนอตำแหน่งและเงินเดือนที่สูงกว่า เพื่อแลกกับข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิบัตรการจัดจำหน่ายถุงยางอนามัย รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับระบบโลจิสติกและกระบวนการจัดจำหน่ายของไทยนิปปอนฯ ด้วย
โดยข้อหาที่มีการระบุในคำฟ้องของไทยนิปปอนฯ ต่อเพลย์บอยฯ เช่นผิดสัญญา, การค้าไม่เป็นธรรม และผิดกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียว่าด้วยการลงทุนทำเฟรนไชร์ และผิดกฎหมาย Franchise Relation Act. เป็นต้น.