ซีเอ็นเอ็น รายงานข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2022 ว่ารัสเซียได้ออกมาเตือนนานาชาติ ที่แสดงท่าทีว่าจะระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครน โดยบอกว่าหากทำเช่นนั้น ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นเกินบาร์เรลละ 300 ดอลลาร์ทันที
ข่าวบอกว่า อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย เป็นผู้ออกมาเตือนบรรดาประเทศตะวันตก ดังกล่าว รวมถึงบอกด้วยว่าท่อส่งก๊าซหลักระหว่างรัสเซีย-เยอรมนี อาจถูกปิดลง หากชาติตะวันตกยังคงเดินหน้าแผนการระงับนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย
ท่าทีของนานาชาติเรื่องระงับการนำเข้าน้ำมันของรัสเซีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคมว่า สหรัฐฯ กำลังเจรจากับชาติพันธมิตรในยุโรป เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย
โดยรองนายกฯ รัสเซีย ยังบอกด้วยว่าการระงับการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียคือ “หายนะ” สำหรับตลาดโลก เพราะจะทำให้ราคาน้ำแพงในระดับที่คิดไม่ถึง โดยอาจพุ่งขึ้นทะลุระดับ 300 ดอลลาร์/บาร์เรล อีกทั้งยังขู่ด้วยว่า ยุโรปอาจต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งปี จึงจะสามารถหาน้ำมันชดเชยส่วนที่นำเข้าจากรัสเซีย อีกทั้งเป็นน้ำมันที่แพงขึ้นกว่าเดิมมาก
"นักการเมืองยุโรปควรเตือนพลเรือนของตนเองว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากคุณปฏิเสธน้ำมันจากรัสเซีย ก็ทำได้เลย เราพร้อมรับมือกับสถานการณ์นี้ และเรารู้ว่าเราจะปรับทิศทางการส่งออกน้ำมันไปยังที่ใด" รองนายกฯ อเล็กซานเดอร์ โนวัค กล่าว
นอกจากนี้ รองนายกฯ รัสเซียยังขู่ว่า รัสเซียอาจจะระงับการลำเลียงก๊าซไปยังยุโรปผ่านทางท่อส่งนอร์ด สตรีม 1 (Nord Stream 1) เพื่อตอบโต้ชาติตะวันตกที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียอีกด้วย
ต่อมา ซีเอ็นเอ็น รายงานข่าวท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องเดียวกัน โดยอ้างแหล่งข่าวในทำเนียบขาว ที่กล่าวว่าสหรัฐฯ จะประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพียงลำพัง หากชาติพันธมิตรในยุโรป ไม่เห็นด้วยกับมาตรตการนี้
โดยเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้จัดการประชุมทางไกล กับผู้นำของฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร เพื่อโน้มน้าวชาติยุโรปจะให้การสนับสนุนเกี่ยวกับการระงับคำสั่งซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งแหล่งข่าวในทำเนียบขาว กล่าวว่ามีความเป็นได้สูงที่ชาติพันธมิตรเหล่านี้ จะ “ไม่เอาด้วย” กับมาตรการคว่ำบาตรนำมันรัสเซีย ของสหรัฐฯ ครั้งนี้.