จากวิกฤตโรคระบาด ที่ส่งผลให้ผู้ใช้ไอโฟนทั่วโลกต้อง “ใส่หน้ากากอนามัย” มานานกว่าสองปี ล่าสุด แอปเปิล ยอมให้ผู้ใช้ไอโฟน ใช้ระบบ Face ID หรือใช้ใบหน้า “เปิดเครื่อง” โดยไม่ต้องถอดหน้ากากฯ แล้ว
ที่ผ่านมา ผู้ใช้ไอโฟนที่ใส่หน้ากากอนามัย จะเปิดเครื่องด้วย Face ID ได้ก็ต่อเมื่อใช้แอปเปิลวอช อยู่เท่านั้น
โดยแอปเปิล แถลงเมื่อวันที่ 16 มีนาคมว่า การอัพเดท iOS 15.4 สำหรับไอโฟนรุ่น 12 ขึ้นไป จะมีตัวเลือกที่เรียกว่า Face ID with a Mask ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้ใช้เปิดเครื่อง หรือ unlock ด้วยใบหน้าทั้งๆ ที่ยังใส่หน้ากากอนามัยได้ เป็นการประหยัดเวลาที่เคยต้องเสียไปในการกดรหัสเปิดเครื่อง หรือถอดหน้ากากอนามัย
นอกจากนี้ Face ID with a Mask ยังยอมให้ผู้ใช้เข้าถึงระบบจ่ายเงิน Apple pay หรือยินยอมให้มีการดาวน์โหลดแอพ ที่ต้องใช้ Face ID ด้วย
หลังจากอัพเดทเป็น iOS 15.4 แล้ว ผู้ใช้ไอโฟน ต้องเปิด เซ็ทติ้ง และกดเลือก Face ID & Passcode เพื่อเปิดใช้ Face ID with Mask และจากนั้น ผู้ใช้จะต้องถอดหน้ากากอนามัย เพื่อให้ระบบจดจำลักษณะจำเพาะ หรือ unique features รอบๆ บริเวณดวงตา
“ท่านจะต้องมองที่โทรศัพท์ เพื่อใช้ระบบ Face ID ขณะใส่หน้ากากอนามัย” คำแนะนำระบุ
และเมื่อทำการติดตั้ง หรือ setup เสร็จแล้ว ผู้ใช้ที่ใส่แว่นสายตา สามารถเพิ่มความแม่นยำของระบบได้โดยการกดที่ Add Glasses (เพิ่มแว่น) ขณะอยู่ที่จอ Face ID & Passcode screen
อย่างไรก็ตาม แอปเปิลมีคำเตือนด้วยว่า ผู้ใช้ไอโฟน ที่ใส่หน้ากากสูงเกินไป หรือใกล้ดวงตาเกินไป อาจมีปัญหาในการเปิด หรือ unlock เครื่องได้ เพราะเป็นระบบที่ต้องเห็นดวงตาของเจ้าของเครื่องแบบชัดเจน โดยไม่มีสิ่งใดๆ ปิดบัง
นอกเหนือจากตัวเลือกในการเปิดเครื่องทั้งที่ใส่หน้ากากอนามัยแล้ว การอัพเดทเป็นเวอร์ชั่น iOS 15.4 ซึ่งขณะนี้ได้พร้อมให้ผู้ใช้ในอเมริกาดาวน์โหลดแล้วนั้น ยังมีการเพิ่ม “อีโมจิ” อีกหลายแบบ มีการเพิ่มเสียงของ สิริ ให้ผู้ใช้เลือก รวมถึงมีการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ (bug fixes) ของเวอร์ชั่นก่อนหน้าด้วย.