ข่าวคนไทยในอเมริกา
บทความ : ว่าด้วยการลอบสังหารผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ

เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2024 อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ตัวแทนพรรครีพับลิกันในสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 ถูก “ลอบยิง” ขณะอยู่บนเวทีหาเสียงที่รัฐเพ็นซิลเวเนีย แต่เดชะบุญที่มือปืน ซึ่งข่าวบอกว่ากระหน่ำยิงเข้ามาจากระยะไกลถึงแปดนัด ทำได้แค่เพียง “ถากใบหูขวา” ของทรัมป์เท่านั้น

แม้ข่าวนี้ จะกลายเป็น “ช็อคเวฟ” แผ่กระจายไปทั่วทั่วโลก และกลายเป็นประเด็น “น่าตกใจ” ของคนรุ่นใหม่ที่บางส่วนอาจจะไม่เคยรับรู้ว่าเหตุการณ์เลวร้าย “สไตล์โลกที่สาม” เช่นนี้ เคยเกิดขึ้นในประเทศอเมริกาอันเป็น “ประเทศต้นแบบ” ในมโนสำนึกของพวกเขามาก่อน

เพราะในความเป็นจริงแล้ว การลอบสังหาร หรือความพยายามลอบสังหารบุคคลสำคัญ อย่างผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ใช่เรื่องแปลกของอเมริกา หากสนใจประวัติศาสตร์การเมือง จะเห็นว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง

ในปี 1912 อดีตประธานาธิบดี เท็ดดี้ โรเซอเวลต์ ถูกลอบยิงขณะหาเสียงเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ในเมืองมิลวอกี้

เหตุการณ์โชกเลือดครั้งนั้น กลายเป็น “ตำนานการเมือง” ที่เล่าขานกันมาถึงปัจจุบัน เพราะแม้กระสุนจากปืน .38 ที่คนร้ายยิงแบบเผาขนจากหน้าเวที จะฝังเข้าที่หน้าอกของเขา แต่ประธานาธิบดีคนที่ 26 ของอเมริกาคนนี้ ก็สามารถกล่าวสุนทรพจน์ยาวเหยียดกว่า 55 นาที (บางข่าวบอก 86 นาที) จนจบได้

ทั้งนี้เพราะว่ากระสุนปืนได้ผ่านบทสุนทรพจน์หนา 50 หน้าที่โรเซอเวลต์ใส่ไว้ในอกเสื้อ แถมต้องผ่านซองแว่นตา ที่ข่าวบอกว่าเป็นโลหะบางๆ อีกชั้น แม้จะฝังเข้าเนื้อจนเลือดโชกเสื้อ แต่ก็ไม่ลึกพอที่จะทำอันตรายเขาได้

แต่น่าเสียดาย แม้จะพิสูจน์ถึงความทรหดอดทนได้แบบนี้ แต่ที่สุดแล้ว เขาก็ไม่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในสมัยนั้น จึงหมดโอกาสกลับมาเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สามไป

อีกครั้งเกิดกับ จอร์จ วอลเลซ ผู้ว่าการรัฐอลาบาม่า ที่กำลังสมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ลงสนามประธานาธิบดี ปี 1972 ถูกมือปืนอาชีพ ชื่อ อาเธอร์ เฮอร์แมน บรีแมน ยิงที่แมรีแลนด์ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 1972 จนเป็นอัมพาตท่อนล่าง

เหตุการณ์ลอบสังหารผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่ “ซีเรียส” กว่านั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 1968 กับ โรเบิร์ท เอฟ เคนเนดี (น้องชายของ เจเอฟเค) ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ถูกยิงหลายนัดที่ลอส แอนเจลิส จนเสียชีวิตในวันถัดมา

นอกเหนือจากผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแล้ว ประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ระบุว่าในอดีตที่ผ่านมา มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถึงสี่คน เสียชีวิตเพราะถูกลอบสังหารขณะอยู่ในตำแหน่ง คือ

อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของอเมริกา ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อค่ำวันที่ 14 เมษายน 1865 ที่ ฟอร์ด เธียร์เตอร์ กรุงวอชิงตัน ดีซี

เจมส์ เอ การ์ฟิลด์ ประธานาธิบดีคนที่ 20 ถูกยิงที่สถานีรถไฟในวอชิงตัน ดีซี ในตอนเช้าของวันที่ 2 กรกฎาคม 1881 หลังสาบานตัวเข้ารับตำแหน่งเพียงไม่ถึงสี่เดือน ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในอีกเกือบสามเดือนต่อมา

วิลเลี่ยม แม็กคินลีย์ ประธานาธิบดีคนที่ 25 ถูกยิงที่ท้องสองนัดในระยะประชิดที่เมืองบัฟฟาโล่ ของนิวยอร์ก เมื่อบ่ายวันที่ 6 กันยายน 1901 แม้บาดแผลจะไม่สาหัส แต่เพราะมีอาการแทรกซ้อน (ข่าวบอกว่าเป็นโรคเนื้อเน่า หรือ gangrene รอบๆ แผล) ทำให้เขาเสียชีวิตหลังจากนั้นประมาณ 8 วัน

จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ประธานาธิบดีคนที่ 35 ถูกลอบยิงระยะไกลขณะอยู่ยนรถเปิดประทุนในเมืองดัลลัส เท็กซัส เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 ทำให้ประธานาธิบดีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกาคนนี้ เสียชีวิตทันทีในวัยเพียง 46 ปี

แต่ประเด็นที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทุกคนใน “ยุคใหม่” หรือ modern president (นับจากต้นยุค 1930s ขึ้นมาถึงปัจจุบัน) เช่น โรนัลด์ เรแกน, จอร์จ บุช, บารัก โอบาม่า ฯลน รวมถึงโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วย ต่างเคยผ่านเหตุการณ์ลอบสังหาร, พยายามลอบสังหาร หรือมีการเปิดโปงแผนลอบสังหาร มาแล้วทุกคน

ในกรณีของทรัมป์นั้น มีขึ้นเมื่อปี 2017 โดยข่าวบอกว่าหน่วยงานรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดี (Secrer Sercice) สามารถขัดขวางแผนร้ายของกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย (ISIL) ที่มีแผนลอบสังหารทรัมป์ระหว่างร่วมการประชุมอาเซียนซัมมิตที่ฟิลิปปินส์ ได้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทรัมป์เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม หรือประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ในลักษณะนี้ น่าจะทำให้ “คนรุ่นใหม่” หลายๆ คน รู้จักและเข้าใจประเทศ ซึ่งมีภาพพจน์เป็น “ผู้นำของโลก” ประเทศนี้ดีขึ้น...




 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
619
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข