เอพีรายงานข่าวเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2025 ถึงท่าทีล่าสุดของสำนักงานบริการสัญชาติและผู้อพยพ (U.S. Citizenship and Immigration Services: USCIS) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงความมั่นคงภายใน ที่ออกแถลงการณ์ในวันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ ว่าจะรัฐบาลจะเริ่มจดทะเบียนผู้อยู่ในประเทศแบบไม่ถูกต้องในเร็วๆ นี้

โดยการลงทะเบียนดังกล่าว มีผลบังคับกับผู้มีอายุ 14 ปีขึ้นไปทุกคนที่ยังไม่มีสถานภาพตามกฎหมาย (legal status) ส่วนผู้ที่อายุต่ำว่า 14 ปีนั้น ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล จะต้องดำเนินการลงทะเบียนให้

“แต่ละคนจะต้องลงทะเบียน, พิมพ์ลายนิ้วมือและให้ที่อยู่” แถลงการณ์ของ USCIS ระบุ และว่าบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน มีทั้งปรับ จำ หรือทั้งปรับและจำ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทริเซีย แม็กลาฟลิน โฆษกของกระทรวงความมั่นคงภายใน ออกแถลงการณ์ ระบุว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ จะบังคับใช้กฎหมายอิมมิเกรชั่นทุกฉบับ

“เราจะไม่หยิบขึ้นมาเลือกว่าจะบังคับใช้กฎหมายฉบับไหนดี เราจำเป็นต้องรู้ว่าใครอยู่ในประเทศของเรา เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของมาตุภูมิ และของชาวอเมริกันทุกคน”

แถลงการณ์บอกด้วยว่า USCIS จะประกาศให้ทราบถึงแบบฟอร์ม หลักฐาน และขั้นตอนต่างๆ สำหรับให้คนต่างด้าว (aliens) ใช้ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงานในเร็วๆ นี้ โดยจะกำหนดให้ทุกคนสร้างบัญชีออนไลน์ของตัวเองขึ้นมา

โดยหลังจากลงทะเบียนแล้ว ผู้อพยพจะได้หลักฐานแสดงตัว หรือ identity card จากกระทรวงความมั่นคงภายใน โดยระบุว่า “เป็นบัตรแสดงตัวที่ผู้มีอายุ 18 ปีทุกคนจะต้องพกติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา”

“ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ในการลงทะเบียน จะประกาศให้ทราบในวันต่อไป” แถลงการณ์ระบุ และว่า “ไม่มีคนต่างด้าวคนไหน สามารถใช้ข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงในการปฏิบัติตามกฎหมายได้”

ท่าทีตามประกาศของสำนักงานบริการสัญชาติฯ นี้ ถือเป็นความพยายามล่าสุดของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยสัญญาระหว่างหาเสียงว่าจะหยุดยั้งการเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย และจะเนรเทศผู้อยู่ในประเทศแบบผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผู้มีประวัติอาชญากรรมทั้งหมดด้วย

เอพีบอกว่า อเมริกาเคยบังคับให้ต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศ ลงทะเบียนกับรัฐบาลมาแล้วอย่างน้อยสองครั้ง ครั้งแรกในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีการบัญญัติกฎหมาย เรียกว่า กฎหมายลงทะเบียนต่างด้าว หรือ the Alien Registration Act ขึ้นมาในปี 1940 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศกำลังตึงเครียด และหวาดระแวงผู้อพยพจากประเทศคู่สงคราม

ครั้งที่สอง เป็นการใช้โปรแกรมที่เรียกว่า the National Security Entry-Exit Registration System ที่สร้างขึ้นหลังเกิดเหตุโศกนาฎกรรม 9/11 (ตามกฎหมายผู้อพยพและสัญชาติ หรือ the Immigration and Nationality Act ปี 1952 ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน) โดยบังคับให้ ผู้อพยพเพศชายทุกคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป จาก 25 ประเทศ จะต้องลงทะเบียนกับรัฐบาลอเมริกัน ซึ่งเป็นระบบที่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่สามารถเอาผิดผู้ก่อการร้ายได้ แต่ทำให้มีการเนรเทศชาวต่างชาติมากกว่า 13,000 คน ก่อนที่ระบบนี่จะถูกระงับในปี 2011 และถูกยกเลิกในปี 2016

ข่าวบอกว่าหากรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ จะบังคับลงทะเบียนผู้อพยพในประเทศอีกครั้ง ก็จะถือเป็นความพยายามครั้งแรกในระยะเวลากว่าสิบปี

อย่างไรก็ดี ข่าวอ้างความเห็นของ ไฮดี อัลท์แมน นักวิชาการจากศูนย์กฎหมายอิมมิเกรชั่นแห่งชาติ (the National Immigration Law Center) ว่า ท่าทีของรัฐบาลกลางดังกล่าว เป็นเพียงเกมการเมือง เพื่อสร้างกระแสตื่นกลัวให้เกิดขึ้นในชุมชนผู้อพยพ ที่แทบจะไม่มีผลในเชิงปฏิบัติ เพราะจะไม่ใครออกมาแสดงตัว เพื่อให้ตัวเองเป็นเป้าหมายของการจับกุมเพื่อเนรเทศได้ง่ายขึ้น

“ส่วนบทลงโทษ เช่นปรับ หรือจำ หรือทั้งปรับทั้งจำ ตามที่ระบุเอาไว้นั้น ถือว่าไม่มีความหมาย เพราะคนกลุ่มนี้อยู่ต่ำกว่าเรด้าร์ของกฎหมายอยู่แล้ว” ไฮดี อัลท์แมน กล่าว.