Snow White ฉบับคนแสดง ที่สร้างซ้ำจากอนิเมชั่นคลาสสิกปี 1937 ของดีสนีย์ ทำรายได้จากการฉายในสุดสัปดาห์แรกได้ 43 ล้านดอลลาร์ ทำให้ภาพยนตร์ที่ถูกจับตามากที่สุดเรื่องนี้ กำลังเสี่ยงต่อสภาวะขาดทุน เพราะใช้ทุนสร้างสูงกว่า 250 ล้านดอลลาร์ (ไม่รวมค่าการตลาด)

ข่าวบอกว่า เป็นเพราะอนิเมชั่น Snow White and the Seven Dwarfs ซึ่งเป็นอนิเมชั่นเรื่องแรกของดีสนีย์ และเป็นจุดเร่ิมต้นแห่งความสำเร็จของค่ายดีสนีย์นั้น ถือเป็นภาพยตร์ที่ประทับอยู่ในความทรงจำของผู้ชมทั่วโลก ดังนั้นการ “ทำซ้ำ” โดยการเปลี่ยนแปลงภาพจำดังกล่าว จึงส่งในด้านลบ สร้างความไม่พอใจให้ผู้คนทั่วโลกเป็นอย่างมาก

ประเด็นที่ทำให้ Snow White ถูกวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึง “ต่อต้าน” มากที่สุดคือการใช้ เรเชล เซกเลอร์ นักแสดงเชื้อสายโคลัมเบีย มารับบทสโนว์ไวท์ เพราะถูกมองว่าเธอไม่ใช่ “เจ้าหญิงผู้มีผิวพรรณขาวประดุจหิมะ” อันเป็นที่มาของชื่อสโนว์ไวท์ แถมยังมีรูปโฉมที่ห่างไกลจากการเป็น “สตรีที่งามเลิศในปฐพี” อย่างที่ควรเป็นค่อนข้างมาก

นอกจากนี้ เสียงสะท้อนในเชิงลบจากนักวิจารณ์ ก็ส่งผลกับรายได้ของ Snow White เช่นกัน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้คะแนน fresh เพียง 43% บนเว็บวิจารณ์ภาพยนตร์ Rotten Tomatoes เท่านั้น

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแส แบล็คไลฟ์แมทเทอร์ และการส่งเสริมความเท่าเทียมต่างๆ ที่เชี่ยวกรากในอเมริกา ทำให้ดีสนีย์ ปรับตัวมาใช้นโยบาย Color-blind Casting หรือการคัดตัวนักแสดงโดยมองที่ความสามารถของนักแสดงเป็นหลัก ไม่สนถึงรูปลักษณ์ของนักแสดง หรือภาพจำของตัวละคร เพราะคาดว่าจะทำให้ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับจากสาธาณชนมากขึ้น

ก่อนจะเกิดกระแสต่อต้าน Snow White เชื้อสายสแปนิชในเวลานี้ ดีสนีย์เคย “เจ็บตัว” กับกระแสต่อต้านเงือกน้อย (The Little Mermaid) ที่เป็นคนผิวดำมาก่อนแล้ว

ทั้งนี้ รายได้ในสุดสัปดาห์แรกเพียง 43 ล้านดอลลาร์ ทำให้ Snow White สร้างสถิติเปิดตัวด้วยรายได้ต่ำสุดในบรรดาภาพยนตร์ Live action ที่ดีสนีย์ “รีเมค” จากอนิเมชั่นคลาสสิกทั้งหมด ลบสถิติ Dumbo (2019) ที่ทำได้ 46 ล้านดอลลาร์ และมีความเป็นไปได้สูงที่จะกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้น้อยที่สุดในกลุ่มภาพยนตร์รีเมคจากอนิเมชั่นทั้งหมดด้วย.