เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ไมเคิล กอร์ดอน หนึ่งในทนายความของกระทรวงยุติธรรม ที่รับผิดชอบคดีก่อการจลาจลที่อาคารรัฐสภาเพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ได้ยื่นฟ้องร้องรัฐบาลกลาง คือกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานบริหารของประธานาธิบดี อ้างว่าการไล่เขาออกเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา เป็นการแก้แค้นทางการเมืองของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 

ทั้งนี้ คดีก่อเหตุการจลาจลที่อาคารรัฐสภา โดยกลุ่มขวาจัด และกลุ่ม “พลังขาว” ที่เป็นฐานเสียงสำคัญของทรัมป์นั้น กลุ่มอัยการสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้กว่าพันคน โดยบางส่วนคือประมาณ 277 คนได้รับโทษจำคุก และอีกจำนวนมากถูกพิพากษาให้ถูกกักบริเวณที่บ้านตัวเอง (home detention), ถูกปรับ, ถูกทัณฑ์บน รวมถึงการทำงานรับใช้ชุมชนด้วย

อย่างไรก็ดี หลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปี 2025 เขาได้ประกาศอภัยโทษผู้ต้องหาคดี 6 มกราคม 2021 ทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าคนกลุ่มนี้คือผู้รักชาติ (patriots) ที่กำลังตกเป็นเชลย ก่อนจะทะยอยไล่ออก ลดตำแหน่ง หรือบีบให้บรรดาทนาย หรืออัยการที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ลาออก โดยมีทนายความในสังกัดกระทรวงยุติธรรม “หลายสิบคน” ที่เจอชะตากรรมแบบนี้

นอกจาก ไมเคิล กอร์ดอน แล้ว ยังมีอดีตทนายความของกระทรวงยุติธรรมอีกสองคน คือ แพทริเซีย ฮาร์ตแมน และโจเซฟ ทิร์เรลล์ ร่วมเป็นโจทก์กลุ่มแรกที่ยื่นฟ้องรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ด้วย

กอร์ดอน วัย 47 ปี กล่าวกับเอพีว่า ก่อนถูกไล่ออกเพียงสองวัน เขาได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงาน และได้คะแนนสูงสุด เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาถูกไล่ออกเพื่อ “แก้แค้นทางการเมือง” ไม่ใช่เพราะประสิทธิภาพการทำงาน โดยในจดหมายเลิกจ้าง ที่ลงนามโดย แพม บอนดี อัยการสูงสุด ไม่ได้ระบุเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น

กอร์ดอน ซึ่งทำงานกับกระทรวงยุติธรรมมาตั้งแต่ปี 2017 กล่าวว่า การได้ร่วมเป็นอัยการในคดีที่ถือเป็นรอยด่างพร้อยใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของอเมริกานั้น แม้จะทำให้เขาถูกไล่ออก แต่เขาภูมิใจมาก

“เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง โดยไม่เกรงกลัวหรือลำเอียง” กอร์ดอนกล่าว “ผมไม่ได้ตกงานเพราะทำผิดกฎหมาย ผมตกงานเพราะผมบังคับใช้กฎหมาย” 

กอร์ดอน บอกว่าเขาตัดสินใจอาสาเข้าร่วมเป็นหนึ่งในทีมอัยการของรัฐบาล เพื่อทำคดีจลาจล 6 มกราคม แบบเต็มเวลา หลังจากดูข่าวอัปยศนี้ ที่สำนักงานของเขาในเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา และว่าเขาเป็นอัยการดำเนินคดีกับ “สาวกทรัมป์” เหล่านี้มากกว่า 30 คน รวมถึงกลุ่ม “ไฮโปรไฟน์” หลายคน เช่น

-ริชาร์ด “บิโก” บาร์เน็ตต์ ชาวอาร์คันซอ ผู้ซึ่งวางเท้าบนโต๊ะทำงานในของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น

-เอริก มันเชล บาร์เทนเดอร์ชาวเทนเนสซีผู้ซึ่งถือซิปไทพลาสติก (สำหรับมัดมือ) และปืนไฟฟ้า (stun gun) เข้าไปในห้องพิจารณาคดีของวุฒิสภา 

-รีเบคกา ลาฟเรนซ์ หญิงชราวัย 72 ปีจากโคโลราโด ผู้โปรโมทตัวเองออนไลน์ว่าเป็น “J6 praying grandma” โดยอธิบายว่าเธอเข้าร่วมเหตุการณ์ 6 มกรา (J6) เพราะพระเจ้าสั่งให้เธอเข้าไปอธิษฐานเพื่อยับยั้งการ “ขโมยชัยชนะ” ของทรัมป์

-เรย์ เอปส์ อดีตนาวิกโยธิน “ขวาจัด” ที่นำกลุ่มสาวกทรัมป์บุกเข้าไปในรัฐสภา แต่ต่อมา กลับถูกพวกเดียวกัน รวมถึงฟ็อกซ์นิวส์ กล่าวหาว่าเป็นสายของรัฐบาล โจ ไบเดน ปลอมตัวมายุยงปลุกปั่นให้เกิดจลาจลขึ้น โดย เรย์ เอปส์ ถูกตัดสินให้ต้องทัณฑ์บน 1 ปี และทำงานรับใช้ชุมชน 100 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ไมเคิล กอร์ดอน ถูกไล่ออกขณะทำคดีฉ้อโกงของ ลีโอ โกโวนี ชาวฟลอริดาที่ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์จากกองทุนทางการแพทย์ 

“คุณไล่อัยการระดับสูงออกไม่ได้หรอก ถ้าเขากำลังทำคดีฉ้อโกงมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ เว้นแต่การเมืองจะสำคัญกับคุณมากกว่าความยุติธรรม” กอร์ดอนกล่าว “พวกเขาไม่ได้ไล่ผมออก เพราะสิ่งที่ผมทำไม่ได้ แต่เพราะผมดำเนินคดีกับคนที่เขาคุ้มครองต่างหาก” 

กอร์ดอน บอกด้วยว่าเขาเตรียมใจที่จะถูกไล่ออกตั้งแต่ทราบผลการเลือกตั้งปลายปี 2024 แต่แน่ใจว่า “ไม่รอดแน่นอน” เมื่อทรัมป์ประกาศอภัยโทษ ลดโทษ และสั่งยกเลิกข้อกล่าวหาให้ผู้ก่อจลาจลทุกคน อีกทั้งได้แต่งตั้ง เอ็ด มาร์ติน จูเนียร์ หัวหน้าทนายความของผู้กลุ่มผู้ต้องหาฯ ให้ดำรงตำแหน่งอัยการเขตโคลัมเบีย โดย มาร์ติน จูเนียร์ ได้ลดตำแหน่งทนายความอาวุโสที่เกี่ยวข้องกับคดีจลาจล 6 มกราคม ทันทีหลายคน

“การถูกไล่ออกเป็นเรื่องเล็ก แต่ความหมายของมันนั้นยิ่งใหญ่กว่า” กอร์ดอนกล่าว “ผมใช้เวลาทำงานทั้งหมดในการต่อสู้เพื่อรัฐบาล และตอนนี้ พวกเขาบังคับให้ผมต้องต่อสู้กับรัฐบาล” ทนายความหนุ่มกล่าว.