นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการกงสุล อยู่ระหว่างดำเนินโครงการจัดจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 เพื่อพัฒนาการให้บริการหนังสือเดินทางอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเบื้องต้นกำหนดเพิ่มอายุการใช้งานหนังสือเดินทางสำหรับผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว จากเดิม 5 ปี เป็นสูงสุด 10 ปี รวมทั้งยังเตรียมมาตรการลดระยะเวลาการรับคำร้องทำหนังสือเดินทางจาก 20 นาที เหลือเพียง 12นาที พร้อมยกระดับการเก็บข้อมูลชีวมาตร (Biometrics) โดยให้มีการเก็บข้อมูลม่านตาเพิ่มเติม จากเดิมที่ใช้เพียงใบหน้าและลายนิ้วมือเท่านั้น
ขณะเดียวกันยังเพิ่มศูนย์ผลิตหนังสือเดินทางอีก 1 แห่ง จากเดิมที่สามารถผลิตได้ที่กรมการกงสุลเพียงแห่งเดียว เพื่อไม่ให้การบริการประชาชนหยุดชะงัก เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งเพิ่มช่องบริการจัดทำหนังสือเดินทางทั่วประเทศ เป็น 500 จากเดิม 300 ช่องบริการ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประกาศเชิญชวนทั่วไปผ่านระบบการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) แล้ว เชื่อว่าการดำเนินการทั้งหมดและจะแล้วเสร็จ ก่อนปรับปรุงมาตรฐานหนังสือเดินทางใหม่ได้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2562
อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวต่อว่า การดำเนินโครงการจัดจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 จะเป็นไปด้วยความโปร่งใส ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลใดอย่างเด็ดขาด และการพัฒนานี้จะต้องเทียบเท่าเดิม หรือมีมาตรฐานที่ดีมากขึ้น โดยที่ประชาชนไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมแต่อย่างใด.