อาหารไทยมีรสโอชา เพราะว่ามีพืชผักจำพวกสมุนไพร ที่นำมาผสมปรุงรสให้เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ครบเครื่อง แถม พืชผักเหล่านี้ยังมีคุณประโยชน์กับร่างกาย ทั้งในเชิงบำรุงและรักษาโรคต่างๆ ได้อีกด้วย
ในระยะแรกๆ เมื่อสมัยกว่า 60 ปีมาแล้ว พวกเราชาวไทยที่เดินทางมาสู่แดนศิวิไลซ์แห่งนี้ ก็ต้องกินอยู่แบบชาวอเมริกัน คือมีเครื่องปรุงรสเพียงแค่พริกไทยและเกลือเท่านั้น หรืออาจจะหาพืชผักหรือเครื่องปรุงแบบไทยได้บ้างจากตลาดของคนจีน แต่ก็มีน้อย ไม่ครบถ้วนเพียงพอกับความต้องการ
เมื่อมีคนไทยเดินทางมามากขึ้น ก็มีการนำเมล็ดพืชผักสวนครัวติดตัวมาด้วย เช่นโหระพา กะเพรา มะเขือ จึงมีการเพาะปลูกตามสวนหลังบ้าน บางคนมีมากจนกินไม่หมด ก็แจกเพื่อนฝูงบ้าง ขายบ้าง
ประมาณปี 1981 คุณสมศักดิ์ กูรมะโรหิต ได้เริ่มต้นทำธุรกิจนำเข้าพืชผักผลไม้จากประเทศเม็กซิโก โดยส่วนใหญ่จะนำเข้าสินค้าที่คนไทยนิยม เช่น มะละกอ มะพร้าว พริกสด ฯลฯ ซึ่งต่อมา ก็ได้พัฒนาไปสู่การเป็น “เกษตรกรไทย” คนแรกในอเมริกาไป
แรกเริ่มนั้น คุณสมศักดิ์พำนักอยู่ที่นครนิวยอร์ค ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่จนเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งจึงเดินทางมาอยู่ที่ลอส แอนเจลิส และกลายเป็นคนไทยคนแรกที่เปิดกิจการร้านซักผ้าแบบหยอดเหรียญ หรือ Laundry Mat ที่ถนนเวสเทิร์นกับซานตา มอนิก้า รวมถึงเป็นคนไทยคนแรกที่ซื้อตู้เกมต่างๆ เช่น ดองกี้คอง เซ็นเตอร์พีช ฯลฯ แล้วนำไปวางไว้ตามร้านขายเหล้า (Liquor Store) และร้านอาหารต่างๆ โดยจะแบ่งรายได้คนละครึ่งกับเจ้าของร้าน ทำรายได้พิเศษให้แต่ละร้านเดือนละกว่า 2,000.00 ดอลลาร์
ในขณะเดียวกัน คุณสมศักดิ์ก็ประกอบอาชีพนำเข้าพืชผักจากประเทศเม็กซิโกควบคู่ไปด้วย โดยจะนำมาฝากไว้ในตู้เย็นของร้านลิคเกอร์ของผู้เขียน บนถนนฮอลลีวูด เป็นประจำ
ธุรกิจนำเข้าพืชผักได้ผลดีมาก ทำให้คุณสมศักดิ์ ตัดสินใจฃยับขยายธุรกิจ โดยการเปิดบริษัท S.K.K. produce ขึ้นในดาวน์ทาวน์ ลอส แอนเจลิส และได้ไปเช่าที่ดินในถิ่นเกษตรกรรมของเมืองเฟรสโน่ เพื่อปลูกพืชผักสวนครัว เช่น พริกขี้หนู โหระพา กะเพรา มะเขือ มะเขือเทศ มะเขือยาว มะระ ฯลฯ โดยใช้แรงงานคนลาว เขมร และแม็กซิกัน ที่อาศัยอยู่หนาแน่นในเขตนั้น
แม้จะได้ผลผลิตดี แต่ว่าพืชผักเหล่านี้จะปลูกได้เฉพาะหน้าร้อน รายได้จึงเพียงพอค่าใช้จ่าย กำไรน้อยเพราะฤดูอื่นไม่สามารถปลูกได้
ดังนั้น คุณสมศักดิ์จึงเดินทางไปสำรวจพื้นที่แถบอเมริกากลาง และลงเอยโดยการไปเช่าที่ดินปลูกผักที่ประเทศโดมินิกัน ซึ่งในช่วงแรกก็ได้ผลผลิตดี อีกทั้งแรงงานยังมีราคาถูกมาก เมื่อเปรียบกับค่าแรงในอเมริกา แต่การปลูกพืชผักที่นั่นก็ได้ผลดีอยู่ระยะหนึ่ง เพราะการแข่งขันเริ่มสูงขึ้นจนที่สุด คุณสมศักดิ์ก็ได้เลิกไป แล้วหันมานำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศไทยแทน
คุณงามความดีของคุณสมศักดิ์ กูรมะโรหิต ที่ผู้เขียนจะต้องบันทึกเอาไว้ ณ ที่นี้ ก็คือเขาคือผู้ริเริ่มผลักดันให้กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ ยอมรับผลไม้สดของไทยหลายชนิด เช่นมะม่วง ลำไย มังคุด ฯลฯ มีโอกาสเข้ามาวางขายได้ โดยลงทุนก้อนโตเพื่อทำวิจัยเกี่ยวกับโรคและแมลงศัตรูพืช และกรรมวิธีกำจัด (ฉายรังสี) ตามที่สหรัฐฯ เรียกร้อง
แต่น่าเสียดายที่การลงทุนลงแรงนานหลายปีของเขาส่งผลช้ากว่าที่ควรเป็น เพราะนักการเมืองที่ดูแลกระทรวงเกษตรในยุคนั้น ไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร จนที่สุดคุณสมศักดิ์ก็วางมือ รีไทร์ และกลับไปพำนักที่ประเทศไทยอย่างถาวร ก่อนที่ผลไม้ไทยจะสามารถเดินทางเข้ามาสหรัฐฯ ได้ในอีกไม่กี่ปีต่อมา
ระหว่างที่เป็นเกษตรกรอยู่ที่เมืองเฟรสโน่นั้น คุณสมศักดิ์ได้ทำคุณประโยชน์ใหญ่หลวงให้กับประเทศไทยอีกประการ
เมื่อปี 1996 เป็นปีที่มีการแข่งขันกิฬาโอลิมปิกที่เมืองแอตแลนตา สหรัฐอเมริกา ประเทศไทยได้ส่งนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นมาชิงชัยหลายรุ่น ซึ่งคุณสมศักดิ์ได้เชิญนักมวยทีมชาติ รวมกว่าสิบคน มาพักและฝึกซ้อมที่สวนผักของเขาในเมืองเฟรสโน่เป็นเวลาสามเดือนก่อนถึงวันแข่งขัน ทั้งนี้เพื่อให้นักมวยคุ้นเคยกับสภาพอากาศ โดยตลอดเวลาสามเดือนนั้น เขาเป็นสปอนเซอร์ทุกอย่าง รวมถึงอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ด้วย
ซึ่งน้ำใจของคุณสมศักดิ์ กูรมะโรหิต ในครั้งนั้น ถือว่ามีส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ สมรักษ์ คำสิงห์ สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกของประเทศไทย สร้างชื่อเสียง และความปิติยินดีให้กับคนไทยทั่วประเทศอย่างมาก
ทุกวันนี้ ทราบว่าคุณสมศักดิ์ก็อยู่ดีมีความสุขที่ประเทศไทย หากท่านมีโอกาสได้อ่านบทความนี้ ก็ขอให้รับทราบว่าผู้เขียน และคนไทยในแอลเอ ยังรำลึกถึงท่านเสมอ...