วัดประยุรวงศาวาส นอกจากจะได้รับการขนานนามว่า เป็นวัดที่มีพระนักเทศน์พำนักอยู่เป็นจำนวนมากแล้ว ยังกล่าวได้ว่า เป็นวัดที่จัดการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนทั้งหลายอย่างเข้มแข็งวัดหนึ่งในประเทศไทย การศึกษาของพระภิกษุสามเณรนั้นเปิดเรียนทั้งนักธรรมและบาลี สำหรับการเรียนบาลีนั้น เปิดสอนตั้งแต่ชั้นบาลีไวยากรณ์ถึงเปรียญธรรม 9 ประโยค การศึกษาสำหรับเยาวชนก็มีโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ อันเป็นการให้การศึกษาปลูกฝังความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาแก่พุทธศาสนิกชนและเยาวชนอย่างครบถ้วน
การศึกษาบาลีวัดประยุรวงศาวาสสมัยนั้นจำได้ว่า หลวงพ่อพระศรีวิสุทธิดิลก (เร่ง อรุโณ) เปรียญธรรม 9 ประโยคเจ้าคณะ 8 เป็นอาจารย์ใหญ่ฝ่ายการศึกษาภาษาบาลี ท่านอาจารย์ใหญ่เป็นคนพูดน้อย รักการศึกษาบาลีเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากท่านจะเป็นผู้บริหารการการศึกษาบาลีแล้ว ท่านจะรับสอนทุกชั้นที่ขาดครู ตอนนั้นท่านสอนเปรียญธรรม 8 และ9ประโยค วันไหนการเรียนบาลีชั้นเปรียญ 7 ประโยค หรือเปรียญ 6 ประโยคขาดครู ท่านจะมอบงานแบบฝึกหัดเปรียญ 8 ประโยค หรือ 9 ประโยค ที่ท่านสอน แล้วท่านก็ไปนั่งสอนแทนครูที่ขาด
แม้อาตมาจะเปรียญธรรม 4 ประโยคในขณะนั้นก็ได้เป็นครูสอนบาลีไวยากรณ์ด้วย สาเหตุที่ได้เป็นครูบาลีเปรียญต่ำที่สุดและอายุน้อยที่สุดก็เพราะวันประชุมใหญ่ประจำปีเรื่องการศึกษาของวัดประยุรวงศาวาสนั้น หลวงพ่อเจ้าอาวาส พระเทพประสิทธิคุณ เป็นประธานในการประชุม ในการแต่งตั้งพระภิกษุหรือสามเณรเป็นครูสอนบาลีนั้นก็จะมีการเสนอชื่อ ไล่มาตั้แต่ครูสอนเปรียญธรรม 9 ประโยค พระภิกษุสามเณรที่ประชุมด้วยต่างรู้จักและเสอนชื่อ พระภิกษุที่จะเป็นครูที่ต่างเป็นที่รู้จักให้หลวงพ่อรับทราบ แล้วจดชื่อไว้ ไม่ได้มีการลงคะแนนแต่อย่างใด พอการประชุมมาถึงการหาครูสอนชั้นบาลีไวยากรณ์ ที่ประชุมเงียบ ไม่มีการเสนอชื่อใคร หลวงพ่อถามอยู่สองสามครั้งก็ยังไม่มีใครเสนอชื่อใครอีก อาตมานั่งอยู่แถวหลังกับกลุ่มสามเณร ก็ยืนขึ้นแนะนำนตัวเองต่อที่ประชุมและอาสาเป็นครูสอนภาษาบาลีชั้นไวยากรณ์ว่า กระผม สามเณรจรรยา คงจินดา จากคณะ 10 ขออาสาเป็นครูสอนบาลีไวยากรณ์ สายตาทุกคู่ต่างจดจ้องมาที่อาตมาโดยมิได้นัดหมาย หลวงพ่อเจ้าอาวาสกล่าวทำลายความเงียบขึ้นว่าสามเณรจรรยา คงจินดา จะสอนชั้นไวยากรณ์เหรอ ขอบใจนะที่ช่วยงานวัดด้านการศึกษาซึ่งเป็นงานสำคัญ ท่านจำชื่ออาตมาได้และกล่าวให้กำลังใจ การปรากฏตัวครวนั้นทำให้พระภิกษุสามเณรทั้งวัดจำหน้าตาได้ว่า สามเณรรูปนี้อยู่คณะ 10 บางคนต่อมาก็จำชื่อได้และทักทายเมื่อพบกัน
เมื่อการปะชุมหาครูบาลีผ่านไปแล้ว วาระต่อมาถึงการประชุมเรื่องครูสอนโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ขณะนั้น พระมหาสำราญ อคฺควโร เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ หลวงพ่อนิมนต์ให้พระมหาสำราญเป็นผู้หาอาสาสมัครในการสอนโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ การเรียนโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์เปิดสอนตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ 1 จนถึงชั้น ม.ศ. 5 ต้องใช้ครูอาจารย์มากกว่าการเรียนภาษาบาลี จึงมีพระภิกษุสามเณรเข้ามาอาสาสมัครช่วยสอนกันมาก อาตมาได้อาสาสมัครสอนชั้นสูง 2 หรือชั้น ม.ศ. 5 ในวิชาประวัติพระพุทธศาสนามีนักเรียนในชั้นประมาณ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนต่างๆอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่อมาอาจารย์สอนชั้นสูง 1 คือ ม.ศ. 4 ในวิชาประวัติพระพุทธศาสนาขาดอีก จึงต้องสอนสองชั้น
ท่านอาจารย์ใหญ่ พระมหาสำราญ อคฺควโร มีความเมตตาและคุ้นเคยกันมาก ท่านเรียกด้วยการให้เกียรติ์ว่า อาจารย์สามเณรจรรยา คงจินดา จะทำงานใกล้ชิดท่านในเรื่องการเป็นพิธีกรตอนจัดแถวเตรียมตัวทำวัตรสวดมนต์ก่อนเข้าเรียน จนกระทั่งวันวิสาขบูชามาถึง มีการประชุมเพื่อจัดงานวิสาขบูชาแก่โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ที่ประชุมมอบหน้าที่ต่างๆให้ทำงานกันอย่างครบถ้วนทุกแผนก จนมาถึงการขออาสาสมัคร อาจารย์ที่จะแสดงปาฐกถาเรื่อง พระพุทธเจ้า ในวันจัดงาน ที่ประชุมได้เสนอชื่อผ่านไปหลายคนไม่มีใครรับโดยอ้างว่า ติดกิจนิมนต์ เพราะวันนั้นเป็นวันพระใหญ่ พระภิกษุสามเณรทั่วไปจะติดกิจนิมนต์ฉันเพลทั้งที่ศาลาศพและธรรมศาลา จึงไม่มีใครอยากมาปาฐกถาธรรม แก่นักเรียนและผู้ปกครอง อาตมาเห็นช่องทันทีว่า ควรจะรับงานนี้ จึงลุกขึ้นอาสาสมัครว่าจะเป็นนผู้แสดงปาฐกถาเอง หลวงพ่อเจ้าอาวาสได้กล่าวชื่นชมว่า สามเณรจรรยา คงจินดา อาสาสมัครช่วยงานวัดดีนะ
อาตมาได้ยินท่านชื่นชมต่อที่ประชุมใหญ่ก็ชื่นใจ คำชมนี้มิได้มาจากความเก่งกล้าสามารถแต่มาจากความเสียสละที่มีต่อพระพุทธศาสนาและวัดวาอารามที่ได้อาศัยอยู่ จากวันแรกที่หลวงพ่อรับเข้าอยู่วัดประยุรวงศาวาสด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจในบุคคลิกภาพ แต่พอนานเข้าได้ร่วมกิจกรรมของวัดทุกอย่างด้วยจิตอาสาเสมอ ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ไม่มีข้ออ้างทำทุกอย่างด้วยความรู้สึกมีความสุข หลวงพ่อเจ้าอาวาสซึ่งเป็นพระมหาเถระที่น่าเคารพนับถือมากเพียบพร้อด้วยพรหมวิหารธรรมจริงๆ จึงเปลี่ยนทัศนคติไปตามผลงาน คนไม่หล่อก็ทำดี เป็นที่ยอมรับของวิญญูชนได้
การแสดงปาฐกถาธรรมเรื่องพระมหากรุณาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเวลาประมาณ 45 นาที ได้เลือกเอาเรื่องเจ้าชายสิทธัตถะ ช่วยหงษ์ และเรื่องที่พระองค์ถูกปองร้ายแล้วทรงให้อภัยและรักศัตรูประดุจบิดารักบุตรของตน ได้รับความสนใจจากนักเรียนและผู้ปกครองที่อยู่เต็มห้องประชุมไม่ต่ำกว่า 300 คน เป็นอย่างดี เมื่อแสดงปาฐากถาธรรมเสร็จแล้ว ตอนฉันเพลมีผู้ปกครองหลายท่าน มาแสดงความชื่นชมว่า ปาฐกถาน่าฟัง ทุกคนฟังได้ เป็นประโยชน์ทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง พระภิกษุสามเณรที่เป็นครูสอนที่นั่งร่วมฟังในวันนั้นก็รู้จักชื่อ เสียงและลีลาการแสดงปาฐกถาธรรมมากขึ้น มีการนำไปคุยและแลกเปลี่ยนกันในวงอาหารและโอกาสอื่นๆในเวลาต่อมา
การอยู่ที่วัดประยุรวงศาวาส เป็นโอกาสได้ศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบและการฝึกฝนตนเองตามแนวทางแห่งพระพุทธศาสนา ผ่านการปฏิบัติและประสบการณ์ในหลายมิติ นับเป็นวันแวลาที่ทำให้การเรียนรู้เติบโตและแบ่งบานกล้าหาญในการลงมือปฏิบัติและค้นคว้าแสวงหามากขึ้น
วันที่ 16 ธันวาคม 2564 เวลา 4.49 น.
วัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย
สหรัฐอเมริกา
ดร.พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ