คอสท์โก้ ค้าปลีกระบบสมาชิกรายใหญ่ของอเมริกา ยังคงเดินหน้ากีดกันไม่ให้ “คนนอก” ได้รับผลประโยชน์แบบเดียวกับบรรดาสมาชิก ล่าสุดตั้งกฎห้ามคนนอกซื้อฮอทด็อก และอาหารราคาประหยัดที่ฟู้ดคอร์ด แล้ว

สำนักข่าว Nexstar รายงานเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2024 ว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา คอสท์โก้ เริ่มติดป้ายประกาศที่บริเวณฟู้ดคอร์ด ว่า “นับจากวันที่ 8 เมษายน 2024 เป็นต้นไป จะมีการเรียกตรวจบัตรสมาชิกที่ยังไม่หมดอายุ เพื่อซื้ออาหารจากฟู้ดคอร์ดของเรา” จากนั้นก็มีข้อความต่อว่า “ท่านสามารถสมัครสมาชิกได้วันนี้ กรุณาติดต่อเคาน์เตอร์สมาชิกของเราเพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติม”

ทั้งนี้ อาหารที่ ฟู้ดคอร์ดของคอสท์โก้นั้น มีชื่อเสียงในเรื่องราคาที่ย่อมเยาว์ เช่นฮอทด็อกขนาดใหญ่ ขายพร้อมน้ำอัดลม (แบบเติมได้) ในราคาเพียงชุด 1.50 ดอลลาร์ ถือว่าย่อมเยาว์มากเมื่อเทียบกับราคาฮอทด็อกทั่วไป ที่มีราคาตั้งแต่ 5 ดอลลาร์ขึ้นไป รวมถึงฮอทด็อกของร้าน เซเว่น-อีเลฟเว่น ที่มีขนาดเล็กกว่า แต่จำหน่ายในราคาชิ้นละ 1.60 ดอลลาร์ เป็นต้น

ข่าวอ้างคำตอบรับจากตัวแทนของคอสท์โก้ ว่ามีการติดป้ายดังกล่าวจริง และว่านโยบายใหม่จะถูกนำมาปฏิบัติที่คอสท์โก้ทั้ง 18 สาขาที่มีฟู้ดคอร์ดอยู่นอกอาคาร โดยได้มีการแจ้งนโยบายใหม่ให้ทีมงานทุกคนทราบแล้ว

ในส่วนของผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก แต่ถือบัตรกำนัล (gift card) ของคอสท์โก้ ที่เรียกว่า Shop Cards นั้น ข่าวอ้างคำกล่าวของผู้แทนจากคอสท์โก้ ว่านโยบายยังไม่ชัดเจนนัก แต่ทุกสาขาในรัฐแคลิฟอร์เนีย ยังคงยอมรับบัตรกำนัลชนิดนี้ตามปกติ ส่วนในรัฐอื่นๆ นั้นอาจจะต้องรอการยืนยันอีกครั้ง

นโยบายใหม่ของ คอสท์โก้ นั้น ข่าวบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายาม “กีดกัน” ไม่ให้บุคคลทั่วไปได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับสมาชิก โดยเฉพาะในส่วนของราคาสินค้า ที่ย่อมเยาว์กว่าร้านค้าปลีกอื่นๆ รวมถึงราคาอาหารในฟู้ดคอร์ดของคอสท์โก้ ด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 คอสท์โก้ ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่คอยตรวจบัตรสมาชิกและเทียบชื่อกับบัตรประจำตัวของลูกค้าก่อนเข้าช่องจ่ายเงินแบบบริการตัวเอง (self-checkout) เพื่อป้องกันลูกค้าที่ใช้ “บัตรยืม” จากญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงด้วย

ทั้งนี้ รายได้หลักของคอสท์โก้ คือค่าสมาชิกรายปี ที่ปัจจุบันมีอัตรา 60 ดอลลาร์ สำหรับสมาชิกสองประเภท คือประเภทดาวทอง (โกลด์สตาร์) และประเภทธุรกิจ และ 120 ดอลลาร์สำหรับสมาชิกประเภท executive โดยคอสท์โก้ มีรายได้จากค่าสมาชิกปีละเกือบ 125 ล้านดอลลาร์ ถือว่าสูงกว่ารายได้จากการจำหน่ายสินค้าในแต่ละปี ดังนั้น หากสามารถป้องกันลูกค้า “บัตรยืม” ได้ คอสท์โก้ ก็น่าจะมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้นด้วย.