วอชิงตันโพสต์ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2024 ถึงผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวาร the Scientific Reports journal ระบุว่าเนื้องูเหลือม เป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่มีความยั่งยืนสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีคุณค่าทางอาหาร อีกทั้งสามารถเลี้ยงด้วยขยะโปรตีน (waste proteins) ได้อีกด้วย

ดร.เดเนียล นาทัช ผู้เชี่ยวชาญด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) เจ้าของผลงานชิ้นนี้ บอกว่า การทำฟาร์มเลี้ยงงูเหลือมมีความเป็นไปได้สูง เพราะงูนั้น สามารถเข้าสู่กระบวนการผลิตอาหารได้ภายในเวลาอันสั้น จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ยั่งยืนกว่าฟาร์มปศุสัตว์แบบดั้งเดิม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาความมั่นคงทางอาหาร การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ฯลฯ เช่นแอฟริกาใต้

“ในเรื่องการเปลี่ยนอาหารและโปรตีนเป็นน้ำหนักนั้น งูเหลือมทำได้ดีกว่าสัตว์เลี้ยงในกระแสหลักทุกสปีชี่ส์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน” ดร.นาทัช ระบุ และว่า “เราพบว่างูเหลือมโตเร็วมาก ทำน้ำหนักขนาดชำแหละได้ภายในเวลาหนึ่งปีหลังออกจากไข่”

โดยผลการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแมควอรี่ ประเทศออสเตรเลีย ฉบับนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการศึกษางูเหลือมขนาดใหญ่สองตัวในฟาร์มที่ประเทศไทยและเวียดนาม ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 12 เดือน และว่าในไทยและเวียดนามนั้น การทำฟาร์มงูเหลือมได้เกิดขึ้นแล้ว และเนื้องูเหลือมถูกตีค่าว่าเป็นอาหารโอชะ (delicacy) อีกทั้งเลี้ยงง่าย ได้ผลดีกว่าการเลี้ยงสัตว์อื่นๆ หลายชนิด

นอกจากนั้น ผลศึกษาชิ้นนี้ยังมาจากการศึกษางูเหลือมในธรรมชาติที่พม่ามากกว่า 4,600 ตัว พบว่างูเหลือมเหล่านั้นเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงปีแรก นอกจากนี้ยังพบว่างูเหลือมกินอาหารน้อยมาก เมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงเพื่อเป็นอาหารชนิดอื่นๆ เช่นไก่ วัว หมู ปลาแซลม่อน และจิ้งหรีด

ผลการศึกษาบอกถึงการทำฟาร์มงูในเอเชียต่อไปว่า ผู้เลี้ยงใช้อาหารผสมผสาน ระหว่างอาหารที่หาได้ในพื้นที่ รวมถึงหนูจากธรรมชาติ ของเหลือจากการชำแหละหมู และเศษปลา โดยงูเหลือมจะมีน้ำหนักเพิ่มได้ถึงวันละ 1.6 ออนซ์ ตัวเมียจะโตเร็วกว่าตัวผู้ ซึ่งระยะเวลาการเลี้ยงที่สั้น ทำให้มีการใช้ทั้งแรงงาน และต้นทุนค่าอาหารน้อยกว่าการเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่น

“งูต้องการน้ำไม่มากนัก มันอยู่ได้จากน้ำค้าง ที่เกาะอยู่บนเกล็ดของมันในตอนเช้า มันต้องการอาหารน้อยมาก และจะกินหนู หรือสัตว์รบกวนอื่นๆ ที่เข้ามาทำลายผลผลิตของชาวบ้านด้วย” ดร.นาทัช กล่าว

ดร.นาทัช บอกว่าเนื้องูเหลือมมีรสชาติดี และว่าเขาชอบเนื้องูเหลือม ทั้งที่เป็นบาร์บีคิว ผัด เสียบไม้ย่าง แกง หรือทำเป็นเนื้อแห้ง (jerky) โดยบอกว่าเนื้องูเหลือมมีรสชาติใกล้เคียงเนื้อไก่ แต่มีกลิ่นสาบ (gamy) มากกว่า.