เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2024 ผู้บริหารของ 99 Cent Only ได้แถลงข่าวการเลิกกิจการ ปิดสาขาซึ่งมีทั้งหมด 371 แห่งในแคลิฟอร์เนีย, เท็กซัส, อริโซน่า และเนวาด้า โดยให้เหตุผลว่าบริษัทประสบปัญหาทางการเงิน อันเนื่องมาจากวิกฤตโรคระบาด พฤติกรรมการการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และล่าสุดคือสภาวะเงินเฟ้อครั้งประวัติศาสตร์

ไมค์ ไซมอนชิก รักษาการ ซีอีโอ ของกลุ่มทุน เอรีส์ เมเนจเมนท์ เจ้าของปัจจุบันของ 99 Cent Only แถลงว่า การปิดสาขาทั้งหมด ถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงจนผู้บริหารไม่สามารถหาทางออกอื่นใดได้ แต่ขณะนี้ ยังไม่ได้กำหนดวันปิดกิจการที่แน่นอน

ในส่วนของสินค้าในคลัง ที่ยังมีเหลือเป็นจำนวนมากนั้น ผู้บริหารของ 99 Cent Only แถลงว่าได้ทำสัญญากับบริษัท ฮิลโก้ โกลเบิล ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการขายสินค้าชำระหนี้ (liquidate) โดยนอกจากสินค้าแล้ว ยังมีการพูดถึงการขายเฟอร์นิเจอร์ เช่นชั้นวางของ ฯลฯ และเครื่องตกแต่งร้านในร้านด้วย

ทั้งนี้ 99 Cent Only เป็นร้านค้าปลีก ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งรวมสินค้าราคาประหยัดนานาชนิด ตั้งแต่เครื่องใช้ในบ้าน อุปกรณ์สำนักงาน อาหาร-ของชำ ขนม เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ยาประจำบ้าน ของใช้ในงานปาร์ตี้ ฯลฯ

ข้อมูลจากแอลเอไทมส์ บอกว่า 99 Cents Only สาขาแรกเกิดขึ้นในลอส แอนเจลิส เมื่อปี 1982 โดยนักธุรกิจชื่อ เดวิด โกลด์ ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกร้านค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าในราคาเดียวทั้งร้าน ในยุคแรกนั้น ภาพพจน์ของ 99 Cents Only คือร้านที่มีแต่สินค้าขยะ (Junk) และสินค้าที่ไม่เป็นที่ต้องการ ทำให้ เดวิด โกลด์ เปลี่ยนทิศทางการบริหาร เริ่มจำหน่ายสินค้ามีคุณภาพ และมีประโยชน์มากขึ้น แต่ทั้งหมดยังคงเป็นสินค้าราคาประหยัด แม้จะแพงกว่า 99 เซ็นต์ก็ตาม

ไทมส์ บอกต่อไปว่า สินค้าในร้าน 99 Cents Only ส่วนใหญ่ยังคงราคาเดิม คือ 99 เซ็นต์เอาไว้ จนถึงปี 2008 ซึ่งเป็นปีที่เกิดสภาวะเงินเฟ้อ การปรับค่าแรง และต้นทุนค่าอาหารสูงขึ้น เป็นเหตุให้ต้องมีการปรับราคาสินค้าครั้งใหญ่ จนเหลือสินค้าราคา 99 เซ็นต์น้อยมาก

ในปี 2011 เดวิด โกลด์ ได้ขาย 99 Cents Only ซึ่งขยายสาขาออกไปกว่า 300 แห่งในสี่รัฐ ให้กับกลุ่มทุน เอรีส์ และกลุ่มทุนในแคนาดา มูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ โดยล่าสุด ไทมส์ บอกว่า 99 Cents Only มีพนักงานประจำประมาณ 14,000 คน.