เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2024 อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสล่า ได้ส่งบันทึกถึงพนักงานในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เพื่อแจ้งเรื่องแผนการลดคนงานประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 14,000 คน จากทั้งหมด 140,473 คน
โดยในบันทึกของ อีลอน มัสก์ บอกว่า เทสล่า กำลังเตรียมพร้อมสำหรับก้าวต่อไป ซึ่ง “จำเป็นอย่างที่สุดในการหาหนทางให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายลง และเพิ่มอำนาจการผลิตให้มากขึ้น”
วันเดียวกัน ผู้บริหารอาวุโส ที่เป็นกำลังหลักของเทสล่าสองคน แถลงผ่าน เอ็กซ์ ว่าจะลาออกจากเทสล่า คือ แอนดรูว์ บากลิโน่ รองประธานอาวุโส ที่ทำงานมา 18 ปี และ โรฮาน พาเทล ผู้อำนวยการอาวุโสด้านนโยบายสาธารณะ และพัฒนาธุรกิจ ที่ทำงานมา 8 ปี
ข่าวเลย์ออฟคนงานของเทสล่าดังกล่าว ส่งผลกระทบให้หุ้นของเทสล่าในวันนั้น ตกลง 4.8 เปอร์เซ็นต์
ในช่วงปีที่ผ่านมา ปัญหายอดขายที่ลดลง ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของเทสล่าตกประมาณ 1 ใน 3 โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคมถึงมีนาคม) เทสล่า นำส่งรถยนต์ได้เพียง 386,810 คัน ถือว่าลดลงเกือบ 9 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสแรกของปีที่แล้ว
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ยอดขายของเทสล่าลดลงนั้น ข่าวบอกว่าเป็นผลมาจากการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น แต่การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลก กลับเป็นไปอย่างเชื่องช้า จนต้องมีการลดราคาเพื่อดูงดูดความสนใจจากลูกค้า
เอพีบอกด้วยว่า ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เทสล่าประกาศลดราคารถยนต์บางรุ่นลงมากถึง 20,000 ดอลลาร์ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งและความต้องการซื้อที่ลดลง ซึ่งการลดราคามีส่วนสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการของเทสล่า ลดลงอย่างเห็นได้ชัด.